In News

มหาดไทยดึงองค์กรรัฐ-เอกชน76จังหวัด จัดระดมสมองส่งเสริมเศรษฐกิจในภูมิภาค



กรุงเทพฯ-มหาดไทยดึง "หอการค้า-สภาอุตสาหกรรม-สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว-สมาคมธนาคาร" เปิดเวทีร่วมภาครัฐและภาคเอกชน 76 จังหวัด สะท้อนแนวทางเสริมสร้างเศรษฐกิจภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัด เพื่อความผาสุกของประชาชน

วันนี้ (11 ก.ย. 68) เวลา 09.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ มอบหมายให้ นายวรณัฎฐ์ หนูรอต ที่ปรึกษาด้านการปกครอง เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัด ปี 2568 ณ ห้องประชุม Grand Ballroom โรงแรมเอส รัชดา เลเชอร์ ถ.เทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ โดยมี นายจักรพันธ์ รัตนเสถียร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการจังหวัด พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ประธานกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัด (YEC) ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมประชุม

นายวรณัฏฐ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเพียงลำพังผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารราชการโดยปราศจากความร่วมมือของภาคเอกชนภายในจังหวัด ไม่ได้รับฟังข้อเสนอแนะหรือความต้องการของภาคเอกชนภายในจังหวัด ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นดั่ง "โซ่ข้อกลาง" ประสานความร่วมมือกับทุกส่วนราชการและภาคเอกชนภายในจังหวัดตามบริบทในการพัฒนาจังหวัดที่แตกต่างกันไป โดยมี 4 เสาหลักของพื้นที่ คือ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และชมรมธนาคาร

"นโยบายหลักของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนจังหวัด คือ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งด้วยการสร้างรายได้ให้กับพื้นที่โดยมีกลไกหลัก คือ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ซึ่งถือเป็นการรวมพลังของ 3 เสาหลักภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งภาคการท่องเที่ยวและบริการ บางพื้นที่รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว บางพื้นที่รายได้หลักมาจากการอุตสาหกรรม บางพื้นที่รายได้หลักมาจากการค้าและการขาย การส่งออก การประชุมเชิงปฏิบัติการตลอด 2 วันนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่จะทำให้ภาครัฐและภาคเอกชนจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศได้มาร่วมสะท้อนความคิด มุมมอง ถอดบทเรียนที่หลากหลายไปด้วยกัน"

นายวรณัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ให้แก่หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด และผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด เพื่อจับมือร่วมกับภาคเอกชนในจังหวัดอย่างแนบแน่น ยังผลให้จังหวัดของเรามีเศรษฐกิจที่มั่นคงและแข็งแรง 4 ประเด็น ได้แก่ 1) การปรับโครงสร้าง กรอ. จังหวัดและกลุ่มจังหวัด จากไม่เกิน 22 คนเป็นไม่เกิน 24 คน เพื่อให้สามารถดึงองค์กรภาคเอกชนที่มีศักยภาพในพื้นที่เพิ่มเติมร่วมขับเคลื่อนเติมเต็มให้มีศักยภาพ อาทิ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 2) ใช้กลไกการประชุม กรอ. โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงรอบการประชุม ด้วยการจัดให้มีการประชุมทันทีเมื่อมีเหตุการณ์หรือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ เพราะปัญหาของประชาชนจะรอไม่ได้ ต้องทันเวลา ทันท่วงที และทันสมัย 3) หัวหน้าสำนักงานจังหวัดต้องเป็น "โซ่ข้อกลาง" สนับสนุนภารกิจของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบูรณาการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อน ตรวจสอบ และกลั่นกรองแนวทางการขับเคลื่อนของ กรอ. จังหวัดให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดอย่างเต็มกำลัง และ 4) หากจังหวัดใดถูกกำหนดเป็นสถานที่การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ซึ่งจะเป็นโอกาสในการได้รับการสนับสนุนงบประมาณเร่งด่วนจากการอนุมัติของ ครม. จึงขอให้จังหวัดที่เป็นเจ้าภาพสถานที่ประชุมได้จัดทำโครงการที่จะขอรับการสนับสนุนให้สอดคล้องกับแผนจังหวัด ยุทธศาสตร์จังหวัด และสามารถทำได้โดยเร็ว เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

"หัวหน้าสำนักงานจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการเปรียบเสมือนเรือ ภาคเอกชนเป็นท่า ที่จะต้องอยู่คู่กันเพื่อทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่เกิดความผาสุกกับประชาชน ดังนั้น หากมีสิ่งใดให้ภาครัฐได้ร่วมขับเคลื่อนขอให้อย่าได้เกรงใจ เพราะความผาสุกของพี่น้องประชาชนอยู่ในมือพวกเราทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกคน" นายวรณัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้กำหนดจัดตั้งแต่ 11-12 ก.ย. 68 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจในระดับประเทศ ระดับพื้นที่ และแนวทางปฏิบัติด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐบาล และเป็นการเปิดเวทีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการบูรณาการการทำงานเชิงพื้นที่สู่การพัฒนากลไกการขับเคลื่อนที่เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับพื้นที่อย่างมั่นคงและยั่งยืน

การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ในครั้งนี้ มีหัวข้อการเสวนาและการบรรยายที่น่าสนใจ อาทิ
วันที่ 11 ก.ย. 68
- การเสวนา ในหัวข้อ จับมือฝ่าวิกฤต พลิกโฉมเศรษฐกิจประเทศไทย : การปรับตัว การมีส่วนร่วม การพัฒนาเชิงพื้นที่ โดย นายปรัชญา สมะลาภา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย
- การบรรยาย Unlocking New Growth : Digital and AI Technology with Innovation โดย รศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการ Robotics and AI การบรรยาย Next Gen Industry and Supply Chain โดย นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม
- การบรรยาย พลวัตเศรษฐกิจโลกใหม่ เทคโนโลยี และการปรับตัวเพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทย โดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน

วันที่ 12 ก.ย. 68
- การเสวนา ทิศทางการท่องเที่ยวไทย 2025-2030: โอกาสในภาวะวิกฤต และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ โดย นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจิรายุ จารุกิตติวรกานต์ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- การบรรยาย ทิศทางเศรษฐกิจไทยและการพัฒนาเชิงพื้นที่เพื่อสร้างศักยภาพจังหวัด โดย รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์