In News
ปาฐกถาแรก'อนุทิน'ในงานสาธารณสุข อ้อนถ่านไฟเก่ายังครุเชื่อใจกันทำงานง่าย

กรุงเทพฯ-นายกฯอนุทิน ได้ปาฐกถาครั้งแรกหลังเป็นนายกฯบอกพักงาน2เดือนกลับมาพร้อมรับใช้บ้านเมือง ป้อนคำหวานคนสาธารณสุข ถ่านไฟเก่ายังครุ เชื่อใจกันแล้วทำงานกันง่าย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 12 ก.ย.2568 ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความยินดีแก่นักสาธารณสุขดีเด่น ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล “ชัยนาทนเรนทร ปี 2567 และร่วมพิธีปิดการประชุมวิชาการสาธารณสุข 2568
โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวง แพทย์ พยาบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้การต้อนรับ และเข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดวันนี้จึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ นายอนุทิน ยิ้มแล้วตอบว่า “มาเจอแฟนเก่า คือ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนเริ่มงาน นพ.โอภาส ได้นำทีมบริหารกระทรวงสาธารณสุข มอบพวงมาลัยช่อใหญ่อวยพรวันเกิดล่วงหน้านายอนุทิน ในวาระที่อายุครบ 59 ปี ในวันที่ 13 ก.ย.นี้
จากนั้น นายอนุทิน ได้เดินเข้าห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม สถานที่จัดงาน โดยได้กราบนมัสการ พระครูปิยวรรณพิพัฒน์ เจ้าคณะตำบลชั้นเอก วัดหัวฝาย จ.เชียงราย หนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทรประจำปี 2567 ซึ่งพระครูปิยวรรณพิพัฒน์ ได้มอบกำไลหยก และแหวน เพื่อให้นายอนุทินได้บูชาด้วย
เวลา 10.10 น. นายกฯ ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “สาธารณสุขไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า วันนี้มาพบกับท่านในบรรยากาศเช่นนี้ ทำให้คิดถึง เหมือนตัวเองได้กลับคืนสู่เหย้าอีกครั้ง เพราะตั้งแต่พ้นตำแหน่งรมว.สาธารณสุข เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าคิดถึงกระทรวงสาธารณสุขอยู่ตลอด ตนออกไปจากกระทรวงสาธารณสุข 2 ปี ไปมีบทบาทต่างๆ ที่กระทรวงอื่น
พักร้อนไป 2 เดือน และกลับมารับใช้ชาติบ้านเมืองอีกครั้งในตำแหน่งนายกฯ ต้องบอกว่า สิ่งที่ตนจดจำ และประทับใจมากคือ ตอนที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุข เพราะใช้เวลาทำงานที่นี่ตั้งแต่เป็นรมช.สาธารณสุข เมื่อ 22 ปีที่แล้ว ถือว่าใช้เวลาในกระทรวงสาธารณสุขเกือบ 7 ปี ที่ทำงานกับพวกท่าน พบกับสิ่งที่ท้าทายสิ่งที่เป็นปัญหา สิ่งดีงาม และสิ่งที่ต้องแก้ไข พบมาในทุกมิติ
แต่สิ่งที่มั่นใจคือ ความร่วมมือที่ได้จากข้าราชการทุกระดับในกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ภารกิจต่างๆ บรรลุผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ได้รับการยอมรับประสบความสำเร็จ และสิ่งที่พวกเราต้องการมากที่สุดคือสุขภาพที่ดีของประชาชน
เชื่อว่าวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ดำรงสถานะเป็นผู้นำด้านการสาธารณสุขเป็นลำดับต้นๆ ของโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก กระทรวงสาธารณสุขคงต้องปรับตัว ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าเราทำงานกันด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นจะไม่มีปัญหาใดๆ
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตนได้รับเกียรติอย่างสูงที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอชื่อให้ได้รับรางวัล “ชัยนาทนเรนทร” ด้านการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทนักบริหาร ทำให้ตนรู้สึกภาคภูมิใจ และคิดถึงกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น ตนตระหนักดีว่ารางวัลนี้ไม่ได้เป็นเกียรติยศส่วนตัว แต่เป็นผลงานแห่งความสำเร็จของทุกคน ที่ได้ร่วมงานด้วยกันมาสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข
สิ่งที่ตนภาคภูมิใจคือ พวกเราทุกคนในห้องนี้ และผู้ที่เกษียณไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ช่วยกันนำพาระบบการสาธารณสุขของไทยให้ไปยืนแถวหน้า สร้างความมั่นคง ความเชื่อมั่น ทำให้เราไปยืนอยู่ในเวทีนานาชาติได้ในฐานะผู้นำที่ได้รับการยอมรับนับถือจากวงการสาธารณสุขทั่วโลก และหลังจากผ่านวิกฤตต่างๆ ระบบสาธารณสุขไทยยังได้รับการขนานนามว่า เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นายกฯ กล่าวว่า เวลาตนไปไหนมาไหนก็คุยว่าองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ระบบการสาธารณสุขของไทยอยู่แถวหน้าได้ นอกจากแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ของระบบสาธารณสุขของประเทศไทยยังมี อสม. ที่เป็นกลไกสำคัญอยู่เคียงข้างระบบสุขภาพของไทยมาตลอด โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ที่แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่เป็นที่ยอมรับ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันนี้เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วงที่ตนอยู่กระทรวงมหาดไทยได้ไปตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ เห็นว่าระบบการสาธารณสุขตามไปดูแลถึงบ้านจริงๆ แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่คือคุณภาพชีวิตยังไม่ดีพอ ยังอยู่แบบติดเตียง เราไม่ต้องการให้เห็นสภาพแบบนั้น จึงคิดว่าทำอย่างไรที่จะทำให้คนที่ไม่ควรจะถึงวัยที่เป็นภาระของคนอื่น ให้เขาอยู่ดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุด
นี่เป็นโจทย์สำคัญที่เมื่อตนเข้ามาได้รับตำแหน่ง และแถลงนโยบาย คงมอบให้เป็นภารกิจของรมว.สาธารณสุขท่านใหม่นำไปปฏิบัติงานร่วมกับพวกท่าน
“มาวันนี้ถ่านไฟเก่ายังอยู่ เชื่อว่าทุกท่านเข้าใจความผูกพันที่ผมมีกับกระทรวงสาธารณสุข รักกันไม่มีวันหมดอายุ ขอให้เรามั่นใจซึ่งกันและกัน จะเร่งสร้างสิ่งดีงามให้กับระบบสาธารณสุข ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เราเชื่อใจกันแล้วอย่างอื่นก็เป็นเรื่องง่าย” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายอนุทิน ลงจากเวที ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และอสม. ได้เข้ามารุมล้อมนายอนุทิน ขอเซลฟี่ และมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ขณะเดียวกันบางส่วนตะโกนให้ “นายกฯสู้ๆ”