ECO & ESG
ทัพฟ้าร่วมฝนหลวงส่งแคลเซียมคลอไรด์ ปรับสภาพอากาศพลิกแก้ภัยแล้งชุมพร

ชุมพร-ทัพฟ้าจับมือฝนหลวง ส่ง แคลเซียมคลอไรด์ปรับสภาพอากาศ พลิกเกมภัยแล้ง ครั้งประวัติศาสตร์ที่ชุมพร หวังวิจัยเป็นอาวุธใหม่ช่วยประชาชน
นับว่าเป็น ครั้งแรกในไทย หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ผนึกกำลังกองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการวิจัยทดสอบ "พลุปรับสภาพอากาศฝนหลวง" เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมีการยิงพลุสารเคมี 20 ลูกพร้อมกันที่ยอดเขาป่าชุมชน บ้านห้วยใหญ่ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568
เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันดังกล่าว ซึ่งมีชุดปฏิบัติการร่วม นำโดย นาวาอากาศโท สุรสิทธิ์ วารี หัวหน้าแผนก 2 กองโรงงานสรรพาวุธ 4 กรมสรรพาวุธทหารอากาศ, นาวาอากาศตรี นรพงษ์ เอกหาญกมล รอง หน.ผวรบ.กสย.ศวอ.ทหารอากาศ, นายปิ่นพงษ์ คงชนะ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ และ นางสาวอรุณโรจน์ ศรีเจริญโชติ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ได้ระดมทีมขึ้นสู่ ยอดเขาป่าชุมชนบ้านห้วยใหญ่ หมู่ที่ 2 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่นและคณะกรรมการหมู่บ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี
นาวาอากาศโท สุรสิทธิ์ วารี เปิดเผยว่า โดยในเวลา 10.20 น. ชุดปฏิบัติการได้ทำการ ยิงพลุปรับสภาพอากาศพร้อมกันจำนวน 20 ลูก ขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งให้เมฆเกิดการรวมตัว พลุดัดแปลงสภาพอากาศนี้จะทำหน้าที่ส่ง สารแคลเซียมคลอไรด์ ขึ้นไปที่ความสูงประมาณ 1,500 ฟุต จากฐานยิงบนยอดเขา ซึ่งกองทัพอากาศรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมวิจัยกับกรมฝนหลวงฯ เพื่อหาแนวทางใหม่ในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งให้กับประชาชน
นาวาอากาศโท สุรสิทธิ์ วารี กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการวิจัยครั้งนี้คือการเก็บข้อมูลอย่างละเอียด โดยมีการใช้เครื่องบินของกรมฝนหลวงฯ วัดสภาพอากาศทั้งก่อน ระหว่าง และหลังปฏิบัติงาน เพื่อเก็บความชื้นในอากาศมาเปรียบเทียบกับข้อมูลจากแท่นตรวจอากาศเคลื่อนที่ที่ตั้งอยู่ห่างจากจุดยิงพลุประมาณ 3 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ร่วมกับการบินตรวจอากาศตามหลักวิชาการของกรมฝนหลวงฯ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้
ด้านนายนพรัตน์ สัมฤทธิ์ กรรมการป่าชุมชนบ้านห้วยใหญ่ เปิดเผยว่า บริเวณจุดชมวิวป่าชุมชนฯ แห่งนี้มีความสูงถึง 1,053 ฟุต มีความชื้นสูง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ จึงเป็นสถานที่ที่ เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการทดสอบพลุปรับสภาพอากาศนี้ และเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับจังหวัดชุมพรและพื้นที่ใกล้เคียงการทดสอบในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางทหารมาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือประชาชนในการเผชิญหน้ากับวิกฤตภัยแล้งในอนาคต