Biz news
‘ปูนซีเมนต์นครหลวง’รับมอบโล่จากกพร. หนุนปูนซีเมนต์พัฒนาทักษะช่างไทย

กรุงเทพฯ-‘ปูนซีเมนต์นครหลวง’ รับมอบโล่จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานสนับสนุนปูนซีเมนต์พัฒนาทักษะช่างไทยผ่านโครงการ ‘ช่างก่อสร้างอินทรี 4.0’
นายพุฒิพงศ์ สุบิน ผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและแรงงานสัมพันธ์ สายงานกิจการสระบุรี บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ผู้แทนบริษัทฯ เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงานที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานประจำปี 2567-2568 ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนปูนซีเมนต์เพื่อใช้ฝึกอบรมช่างก่อสร้างในโครงการ “ช่างก่อสร้างอินทรี 4.0” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานสาขาช่างก่อสร้างในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมี นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นผู้มอบ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมบางกอก พาเลส กรุงเทพฯ
บริษัทฯ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมานานกว่า 25 ปี ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการฝึกและผ่านการอบรมรวมแล้วมากกว่า 26,000 คน สอดคล้องกับการนโยบายของภาครัฐในขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น “ประเทศไทย 4.0” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานด้านงานก่อสร้าง เพื่อรองรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในอนาคต
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2567-2568 บริษัทฯ ได้สนับสนุนปูนซีเมนต์ รวมกว่า 215 ตัน เพื่อใช้ฝึกอบรมช่างก่อสร้างในโครงการ“ช่างก่อสร้างอินทรี 4.0” ตามแผนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานใน 40 จังหวัด ที่ต้องการยกระดับฝีมือแรงงานไทยให้มีทักษะที่สูงขึ้น ปัจจุบันมีผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการการ “ช่างก่อสร้างอินทรี 4.0” มากกว่า 1,200 คน
สำหรับโครงการ “ช่างก่อสร้างอินทรี 4.0” ช่วยยกระดับฝีมือแรงงานไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพิ่มโอกาสและสร้างรายได้ให้กับแรงงานไทย และยังช่วยแก้ปัญหาการว่างงานทั้งในระดับชุมชนและในระดับประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2573 (INSEE Sustainability Ambition 2030) ของกลุ่มบริษัทฯ ในการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานไทยให้มีศักยภาพก้าวทันโลก และเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็น “ประเทศไทย 4.0” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน