In Bangkok
ปลัดกทม.ผนึกทีมบริหารย้ำความซื่อสัตย์ เร่งรัดการดำเนินในทุกภารกิจรับเลือกตั้ง

กรุงเทพฯ-ปลัดกรุงเทพมหานคร (นายณรงค์ เรืองศรี) ผนึกกำลังทีมบริหาร เน้นย้ำความซื่อสัตย์ เร่งรัดการดำเนินงานในทุกภารกิจ ก่อนการเลือกตั้ง พ.ศ. 2569
ภายหลังพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายณรงค์ เรืองศรี ดำรงตำแหน่งปลัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เพียงไม่กี่วันต่อมา การประชุมมอบนโยบายครั้งแรกกับทีมรองปลัดทั้ง 6 ท่าน และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร ในวันนี้ (6 ต.ค. 68) ก็เกิดขึ้น เพื่อเป็นโอกาสในการสื่อสารทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจนจากผู้นำฝ่ายข้าราชการประจำคนใหม่ โดยเน้นย้ำว่า “ความซื่อสัตย์สุจริต” เป็นหัวใจในการทำงาน และสั่งการให้เร่งรัดการดำเนินงานทุกโครงการให้แล้วเสร็จก่อนที่กรอบระยะเวลาการเลือกตั้งจะมาถึง
● กำหนดวิสัยทัศน์ “มุ่งมั่น ซื่อสัตย์ ดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” พร้อมมอบอำนาจรองปลัดฯ อย่างเต็มที่
นายณรงค์ เรืองศรี ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดการประชุมด้วยการเน้นย้ำถึง “แนวทางการทำงาน” ที่ข้าราชการทุกคนต้องยึดมั่น คือการมุ่งมั่นตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และดำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมกันนี้ ยังกำชับให้หัวหน้าหน่วยงานดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา และมีความรักสามัคคีในองค์กร
นอกจากนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครยังได้มีการแบ่งงานและมอบหมายภารกิจให้รองปลัดกรุงเทพมหานครทั้ง 6 ท่านอย่างชัดเจน โดยกล่าวว่า ได้มอบอำนาจในการบริหารจัดการและตัดสินใจอย่างเต็มที่แก่รองปลัดกรุงเทพมหานครทุกท่าน พร้อมทั้งมอบหมายผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร ให้เข้ามาช่วยเสริมการทำงานในภารกิจด้านต่าง ๆ
● เร่งรัดการบริหารจัดการงบประมาณ ก่อนการเลือกตั้ง พ.ศ. 2569
ประเด็นที่ถือเป็นข้อสั่งการที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในที่ประชุม คือเรื่องการบริหารจัดการงบประมาณและการเตรียมพร้อมรับมือการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานให้กำกับดูแลให้มีการก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ เนื่องจากในปี 2569 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีบางรายการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในห้วงเวลาดังกล่าว
ด้านการเตรียมการเลือกตั้ง มอบหมายให้นายธนิต ตันบัวคลี่ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กำกับดูแล โดยมีสำนักงานปกครองและทะเบียน เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ และประสานกับสำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยได้คาดการณ์กรอบระยะเวลาไว้ว่า อาจจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน 2569 ขณะที่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งจะครบวาระในปี 2569 คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2569
● มอบนโยบายฟื้นฟูคูคลอง แก้ปัญหาขยะ-น้ำเสีย เดินหน้าต้านยาเสพติด
นอกเหนือจากภารกิจเร่งด่วนด้านงบประมาณและการเลือกตั้ง ปลัดกรุงเทพมหานครยังได้มอบนโยบายที่เน้นการแก้ไขปัญหาเมืองในเชิงกายภาพ เพื่อความสะดวกปลอดภัยกับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การพัฒนาคูคลองในพื้นที่ การจัดการบ้านรุกล้ำที่กีดขวางทางน้ำ การแก้ไขปัญหาขยะและน้ำเน่าเสีย การดำเนินกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดถนน คู คลอง ทางเท้า ตลอดจนการดำเนินงานตามประเด็นการพัฒนาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในเรื่องของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
รวมถึงได้เน้นย้ำถึงการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยให้เตรียมแผนงานล่วงหน้าเพื่อรับมือสถานการณ์ตามฤดูกาล เช่น ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน หรือปัญหาฝุ่นในฤดูหนาว และให้เตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับเทศกาลสำคัญ อาทิ ลอยกระทง ปีใหม่ สงกรานต์ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
● สั่งการให้ติดตามผลการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย และเสนอแนวคิด “ทำน้อยได้มาก”
สำหรับการผลักดันงานนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีการติดตามรายงานข้อมูลตัววัดผลหลักผ่านระบบ BMA Policy Tracking โดย ณ วันที่ 26 ก.ย. 68 บรรลุเป้าหมายแล้ว 309 จาก 394 รายการ ปลัดกรุงเทพมหานครจึงได้กำชับให้หัวหน้าหน่วยงานติดตามกำกับผลการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมาย
ในด้านประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ปลัดกรุงเทพมหานครได้เสนอแนะแนวทางการปฏิบัติงานแบบ “ทำน้อยได้มาก” ทั้งนี้ หากมีภารกิจพิเศษสำคัญเร่งด่วน จะมีการจัดประชุมในรูปแบบออนไลน์ สำหรับการรายงานเรื่องต่าง ๆ ผ่านกลุ่มการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ (กลุ่มไลน์) ให้รายงานอย่างกระชับ โดยระบุให้ชัดเจนว่า ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน แก้ไขอย่างไร และแล้วเสร็จเมื่อใด
● ผนึกกำลังทีมรองปลัดฯ เดินหน้างานทกุมิติ
ด้านรองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เน้นย้ำเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
นายไทวุฒิ ขันแก้ว (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการวางผังเมือง วัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และเทคโนโลยี) กล่าวถึงการพัฒนาเชิงพื้นที่ การพัฒนาย่านสร้างสรรค์ การดูแลรักษาพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะพื้นที่ริมคลอง โดยเสนอแนะให้หน่วยงานไปศึกษาและสำรวจให้ครบเพื่อนำมาพัฒนาต่อไป
นายจิระเดช กรุณกฤตกุล (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการโยธา การระบายน้ำ การจราจร และการตรวจราชการ) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่ได้รับจาก Traffy Fondue โดยเฉพาะ 3 สำนักหลักที่มีเรื่องเข้ามาจำนวนมาก อาทิ สำนักการโยธา เรื่องการยื่นแบบขออนุญาตออนไลน์ สำนักการระบายน้ำ เรื่องการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วม สำนักการจราจรและขนส่ง เรื่องหนี้สินรถไฟฟ้าสายสีเขียว การโอนทรัพย์สินรถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นต้น
นางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการเงิน การคลัง และยุทธศาสตร์) กำชับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ที่เป็นต้นตอของแผน ซึ่งต้องนำไปขยายต่อเพื่อขอรับงบประมาณ สำนักการคลังและสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร ในเรื่องของเงินงบประมาณต่าง ๆ สำนักงานตรวจสอบภายใน ในเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดการทำผิด พร้อมได้เน้นย้ำว่าในช่วงการเลือกตั้งจะทำให้มีงานบางอย่างไม่สามารถดำเนินการได้ จึงอยากให้เริ่มเร็วและทำให้แล้วเสร็จก่อนเลือกตั้ง
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม) เน้นย้ำโครงการ Bangkok Healthy City ที่จะทำอย่างไรให้คนไม่ป่วย การพัฒนาด้านสาธารณสุข รวมถึงเรื่องการคัดแยกขยะ และการกำกับติดตามด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ตลอดจนการพัฒนางานด้านการประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ประชาชนรับรู้ถึงการทำงานของกรุงเทพมหานคร
นายธนิต ตันบัวคลี่ (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาสังคม การบังคับใช้กฎหมาย การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กำชับในเรื่องความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะประเด็นละเอียดอ่อน อาทิ การย้ายทะเบียนราษฎร์ที่ผิดปกติ ความเพียงพอของหน่วยเลือกตั้งกับจำนวนประชากร ความพร้อมของสถานที่ตั้งหน่วยเลือกตั้งเดิมว่ายังสามารถตั้งได้หรือไม่ เป็นต้น
นางสาวอรัญญา พรไชยะ (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านบริหารงานบุคคล และการศึกษา) ย้ำเรื่องงานด้านบุคคลที่มุ่งเน้นความโปร่งใส ความเป็นธรรม และการสร้างเส้นทางความก้าวหน้า และแจ้งว่ากำลังมีการปรับโครงสร้างสำนักงานเขต โดยจะเพิ่มกลุ่มภารกิจด้านกฎหมายมากขึ้น รวมถึงให้มีการเร่งรัดการอบรมพัฒนาบุคลากรก่อนช่วงการเลือกตั้ง นอกจากนี้ได้กล่าวถึงคุณภาพการศึกษา การพัฒนาโรงเรียนกีฬา การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม การใช้ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ (e-sarabun)
การประชุมมอบนโยบายในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเริ่มต้นบทบาทของผู้นำคนใหม่ของกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และการลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของเมืองในทุกมิติให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง