In Thailand

หลวงพี่น้ำฝน ม่วางใจโควิด19ในระรอก5 มอบอุปกรณ์ออกซิเจน100เครื่อง9รพ.



นครปฐม- หลวงพี่น้ำฝน จับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไม่วางใจกระแสการแพร่ระบาดระรอก 5 นำทัพบุญจัดมอบเครื่องผลิตออกซิเจน 100 เครื่อง ให้กับ 9 โรงพยาบาล สานต่อลมหายใจ พาคนที่รักกลับบ้าน โดยเตรียมมอบอีก 50 เครื่องให้โรงพยาบาลพื้นที่ห่างไกล วางแนวคิด “ทำเพื่อตัวเอง ก็อยู่แค่สิ้นลม ทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลม ... ก็ยังอยู่” จุดประกายเดินหน้าสร้างสุขในสังคมในสถานการณ์แห่งวิกฤติภัย

วันนี้ 9 กันยายน 64 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นำ คณะศิษยานุศิษย์ ผู้มีจิตศรัทธา อาทิ นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ และศิษนายุศิษย์ ร่วมจัดทำพิธีการรับมอบเครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร จำนวน 100 เครื่อง มูลค่า 3,500,000 บาท เพื่อมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ นำไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผู้อำนวยการและผู้แทนจาก 9 โรงพยาบาลซึ่งได้ทำการร้องขอการสนับสนุนร่วมในพิธีการรับมอบ ณ วิหารหลวงพ่อพูล อัตตรักโข ภายในวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 
 
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า การจัดพิธีรับมอบเครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร ทั้งหมด 100 เครื่อง เป็นเหตุมาจากการได้ประสานงานกับนายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีข้อมูลว่าประชาชนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีอาหารหนักเบาที่แตกต่างกันออกไปแต่ปัญหาที่พบซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้ป่วยนั่นคือเชื้อไวรัสได้แพร่กระจายลงไปที่ปอดและพบว่าเครื่องช่วยหายใจนั้นยังขาดแคลนจึงได้ปรึกษาหารือกับคณะศิษยานุศิษย์ ซึ่งเห็นตรงกันว่าจำเป็นจะต้องร่วมแรง ร่วมใจกันเพื่อจัดหาเครื่องผลิตออกซิเจน มอบให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งสุดท้ายใช้ระยะเวลา 1 เดือนเศษก็มีแสดงเจตนาร่วมบุญทั้งการจัดหาเครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร ในรูปแบบเดียวกับที่ใช้ในประเทศเยอรมัน ซึ่ง 1 เครื่องสามารถผลิตออกซิเจนได้ คราวเดียวกัน 2 หัวจ่ายซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงและเหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนี้ที่ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว วัดไผ่ล้อมได้ดำเนินการโดยกองทุนหลวงพ่อพูล โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) และคณะศิษยานุศิษย์ ซึ่งได้มีความตั้งใจมากที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของคณะแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากที่วัดไผ่ล้อม เป็นวัดแรกในประเทศไทย ที่ประกาศรับเผาศพที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตอนนี้ตัวเลขใกล้ถึง 200 ร่างแล้ว ซึ่งเราได้เห็นว่าความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเคารพ นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและบางรายก็ติดเชื้อไม่สามารถร่วมงานได้ นั่นคือทุกขเวทนา การป้องกันและรักษาชีวิตคืออีกแนวทางที่วัดไผ่ล้อมจะคงทำหน้าที่ในด้านสาธารณสงเคราะห์ โดยครั้งนี้ เครื่องผลิตออกซิเจนทั้งหมดได้ส่งมอบให้กับ 9 โรงพยาบาลประกอบด้วย
 โรงพยาบาลสามพราน จำนวน 30 เครื่อง
โรงพยาบาลนครชัยศรี จำนวน 10 เครื่อง
โรงพยาบาลปราสาท จำนวน 10 เครื่อง
โรงพยาบาลศรีขรภูมิ จำนวน 7 เครื่อง
โรงพยาบาลสุรินทร์ จำนวน  5 เครื่อง
โรงพยาบาลกำแพงแสน จำนวน  8 เครื่อง
โรงพยาบาลดอนตูม จำนวน  8 เครื่อง
โรงพยาบาลบางเลน จำนวน  8 เครื่อง
โรงพยาบาลพุทธมณฑล จำนวน  8 เครื่อง

 “ อาตมาปรับสถานที่วัดไผ่ล้อมเป็นสถานที่เพื่อดูแลประชาชน 100 เปอร์เซ็นต์ คือเมื่อเข้ามาที่วัดทางด้านขวามือจะเป็นฌาปนสถานซึ่งเราจัดกองทุนสวดเผาฟรี สงเคราะห์ญาติโยมอยู่แล้ว และทางซ้ายมือได้ปรับให้เป็นโรงพยาบาลนครปฐม สาขาวัดไผ่ล้อม มีภารกิจรับดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ในหลายๆโรค เพราะโรงพยาบาลเปิดเป็นจุดรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลี่ผ่านมาก็มอบเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลนครปฐม ไป 400 กว่าเตียง มูลค่ากว่า 20 กว่าล้านบาท มาแล้วซึ่งอาตมามุ่งนั้นแนวคิดว่า ทำเพื่อตัวเอง ก็อยู่แค่สิ้นลม ทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลม ... ก็ยังอยู่ นี่คือสิ่งที่อาตมาบอกกับคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดในการช่วยประคองปัญหาของสังคมในสถานการณ์วิกฤติที่ไม่เคยประสบมาก่อน และการจัดหาเครื่องผลิตออกซิเจนในครั้งนี้ 100 เครื่อง ยังพบว่ามีกระแสในการขอรับการสนับสนุนมาอีกในส่วนของโรงพยาบาลทั่วประเทศในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งจะต่อยอดในรอบต่อไปอีก 50 เครื่องทันทีด้วย ” หลวงพี่น้ำฝนกล่าว 
 
ด้าน นายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน กล่าวว่า ต้องขอบคุณหลวงพี่น้ำฝน ที่เป็นสะพายบุญครั้งสำคัญในครั้งนี้ โดยการรับมอบเครื่องผลิตออกซิเจน ที่โรงพยาบาลสามพราน ได้รับมา 30 เครื่องถือว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นมากในการช่วยรักษาและฟื้นฟูให้กับผู้ป่วย ซึ่งในโรงพยาบาลสามพราน ได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม แห่งที่ 2 โรงพยาบาลสามพราน ซึ่งมีเตียงรองรับผู้ป่วยได้ 100 เตียงโดยเครื่องที่นำไปใช้เป็นแบบเครื่องเดียวและมี 2 หัวจ่ายซึ่งใช้งานได้ครั้งเดียวกับผู้ป่วย 2 คนก็จะนำมาใช้ในโรงพยาบาลซึ่งจะเกิดความสะดวกมากขึ้นเพราะจะตัดปัญหาในการขาดแคลนถังบรรจุออกซิเจนเนื่องจากจะผลิตออกซิเจนเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นได้ทันที โดยจะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้มากขึ้นด้วย และเครื่องผลิตออกซิเจนมีความจำเป็นมากเพราะจะช่วยเรื่องการหายใจสำหรับผู้ป่วย ก่อนที่อาการจะแย่ลงและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตรงนั้นถือว่าเป็นวิกฤติสูงสุดของผู้ป่วย

นายแพทย์ทินกร กล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดในระรอกที่ 4 ถือว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางบวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องปิดเมืองล๊อคดาวน์และการที่จะกลับมาเพื่อใช้ชีวิตตามปกติคือการคลายล๊อคดาวน์ อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในระรอกใหม่ได้ การเตรียมพร้อมในคุรุภัณฑ์ทางการแพทย์ เตียง เวชภัณฑ์และยา คือการเตรียมพร้อมที่ดีคือการเตรียมรับสถานการณ์ที่ดีที่สุด โดยในส่วนประชาชนคือการป้องกันตัวเองตามมาตรการ คือการเว้นระยะห่าง การล้างมือ และการสวมหน้ากากอนามัย อีกส่วนคือการที่ประชาชนทุกคนจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเลือกยี่ห้อ ซึ่งทุกชนิดมีข้อดีของตัวเองนั่นจึงจะทำให้การแก้ปัญหานี้ได้เป็นรูปธรรมจนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้

นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ กล่าวว่า การมอบเครื่องผลิตออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งเป็นหนึ่งโครงการที่หลวงพี่น้ำฝนได้จัดทำในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกว่า 2 ปี ไม่ได้มีวันหยุดผมก็ได้ร่วมบุญกับหลวงพี่มาหลายครั้ง ซึ่งล้วนเป็นงานเพื่อสังคมของให้เดินหน้าไปได้ในช่วงนี้ โดยตอนนี้สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นและยังมีกระแสที่อาจจะมีการแพร่ระบาดในระรอกใหม่  ที่ผ่านมาก็ได้รับข้อมูลจากบุคคลากรทางแพทย์ว่าเครื่องผลิตออกซิเจนมีความจำเป็นมากเพราะจะช่วยต่อชีวิตของผู้ป่วยได้มาก ตอนนี้ 100 เครื่องก็ถือว่ายังไม่เพียงพอ ถ้ายังไม่คณะศิษย์ก็จะมีการเร่งจัดหามาช่วยโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งตอนนี้ใครที่พร้อม ก็สามารถมาช่วยสังคมแบบนี้ได้ โดยส่วนตัวได้ตอบแทนลูกค้าโดยการมาร่วมบุญกับหลวงพี่น้ำฝน เอาเงินที่ลูกค้าฝากไว้กลับมาช่วยสังคมตอนที่บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน พาคนป่วยกลับบ้านไม่ให้ไปวัดก่อนเวลาอันควร ซึ่งการสูญเสียบุคคลที่เป็นที่รักอย่างกะทันหันเหมือนที่เกิดขึ้นตอนนี้มันน่าตกใจมากอะไรเราทำได้ให้รีบทำรีบช่วยกันตอนนี้ เรื่องอื่นค่อยมาคิดกันตอนนี้รักษาชีวิตสำคัญที่สุด เราช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราถึงจะเอาชนะปัญหาได้

ขณะเดียวกันวันนี้ที่วัดไผ่ล้อม ยังคงมีการเผาศพผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องซึ่งจนถึงวันนี้เป็นการเผาร่างของผู้เสียชีวิตรายที่ 174 ซึ่งวัดไผ่ล้อม ยังมีการเผาศพทุกวันต่อเนื่อง โดยพบว่าล่าสุดที่ยอดของเมรุเผาศพเริ่มการการแสดงความเสียหายที่ชัดเจนขึ้นโดยมีรอยไหม้ดำและร้าวหนักมากขึ้น ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนกำลังสั่งการให้มีการเร่งแก้ไขปัญหาด้วยการซ่อมเตาที่เสียหายและสร้างเตาเผาแบบคู่เพื่อรองรับการเผาศพได้มากขึ้น ซึ่งช่างได้เร่งทำการต่อสร้างเมรุชั่วคราวบริเวณด้านหน้าฌาปนสถานที่ใช้เป็นเมรุชั่วคราวในการเผาร่างผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดว่าไม่กี่วันนี้จะแล้วเสร็จซึ่งจะสามารถเผาศพได้อย่างต่อเนื่องไม่มีการปิดเมรุเพื่อซ่อมแซมและสร้างใหม่แต่อย่างใด