In Thailand

ผวจ.ตรวจเยี่ยมการเปิดเรียนแบบคู่ขนาน โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด



ร้อยเอ็ด - ผวจ.ร้อยเอ็ด ตรวจเยี่ยมการเปิดเรียนแบบคู่ขนาน on site และ on line ของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 กันยายน 2564 นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย นายแพทย์ ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด , นายเริงวิทย์ ถนอมแสง นายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด , นาย นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด , นายพรเกียรติ พัวนิรันดร์กูล ประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด และคณะออกตรวจเยี่ยมโรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และโรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน
            
นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การทดลองนำร่องเปิดเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบคู่ขนาน on site และ on line นั้น มีการเปิดเรียนมาตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ทดลองเปิดการเรียนการสอนคู่ขนานทั้งหมด 6 โรงเรียน และได้มาตรวจเยี่ยม จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดสระทอง  โรงเรียนวัดเวฬุวัน โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งพบว่า ทั้ง 3 โรงเรียน เป็นไปตามมาตรฐานที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อได้กำหนด และอยากให้สถานศึกษาในสังกัดอื่นๆได้ลองศึกษาแล้วทดลองระบบการเรียนการสอนแบบคู่ขนานดู จากที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดอุบลราชธานี ในสังกัดโรงเรียนของเอกชน และได้นำมาปรับใช้ทดลองการเรียนแบบคู่ขนานกับโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และโรงเรียนในสังกัดเอกชนอีกประมาณ 4-5 โรงเรียน ถือว่าเป็นโครงการนำร่อง ก็ขอให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ได้เชื่อมั่น มั่นใจ ในกระบวนการนี้ จากการติดตามพบว่า สถานศึกษามีการจัดมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด บุคลากรทางการศึกษา ฉีดวัคซีนมากกว่าร้อยละ 85 มีการประเมินความเสี่ยงเป็นระยะ และทางโรงเรียนได้เน้นมาตรการเข้ม ในด้านต่างๆ คือสถานศึกษาจะต้องประเมินตนเองผ่าน Thai stop COVID plus , การทำกิจกรรมร่วมกันต้องเป็นกลุ่มย่อย และไม่ข้ามกลุ่ม ,จัดระบบให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ , จัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ใด้มาตรฐาน โดยเฉพาะการระบายอากาศ , จัดเตรียม School Isolation และแผนเผชิญเหตุรองรับผู้ติดเชื้อ , ควบคุมดูแลการเดินทางไปกลับให้มีความปลอดภัย ( Seal Route) และ จัดทำ School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากร ซึ่งจะมีข้อมูลผลประเมินความเสี่ยง ผลตรวจ ATK ในระยะ 7 วัน ประวัติการรับวัคซีน หรือประวัติติดเชื้อช่วง 1-3 เดือน สิ่งสำคัญคือความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อทำให้การเปิดเรียนมีความปลอดภัยต่อนักเรียนและครอบครัว ต่อไป

ทางด้าน นายแพทย์ ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการที่เราได้มาประเมินเรื่องการศึกษาเพื่อให้มีการเปิดการเรียนการสอนนี้ ถือได้ว่าโรงเรียนที่เราพยายามจะขับเคลื่อน เพื่อเป็นแบบอย่างให้โรงเรียนอีกหลายร้อยโรงเรียน อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ และมั่นใจว่าระบบการเปิดการเรียนการสอนของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดนี้จะสามารถเป็นต้นแบบที่จะขับเคลื่อนการเปิดโรงเรียนให้เปิดการเรียนการสอนในจังหวัดร้อยเอ็ดได้ทั่วทุกโรงเรียน อีกทั้งทางกระทรวงสาธารสุขก็พร้อมที่จะรองรับการแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในการขับเคลื่อนของระบบนี้ ซึ่งคาดว่าในปีการศึกษาถัดไปนี้ ทุกโรงเรียนจะสามารถดำเนินการเปิดการเรียนการสอนได้