In Bangkok
สำนักการศึกษาเตรียมพร้อมเปิดโรงเรียน ชูSandbox Safety zone in School
กรุงเทพฯ-สำนักการศึกษากทม. เดินหน้าโรงเรียนสังกัด กทม. เตรียมพร้อมดำเนินมาตรการ Sandbox Safety zone in School
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) หารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดแนวทางดำเนินมาตรการ Sandbox Safety zone in School ในโรงเรียนแบบไป-กลับ ทุกสังกัดว่า กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมความพร้อมการดำเนินมาตรการ Sandbox Safety zone in School โรงเรียนในสังกัด เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานศึกษาตามแนวทางปฏิบัติที่ ศบค.และ สธ.กำหนด โดยนำมาตรการ Sandbox Safety zone in School มาปรับใช้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสถานศึกษา ประกอบด้วย
1) การทำแบบประเมินตนเองสำหรับสถานศึกษาของกรมอนามัย สธ. ในการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ที่เว็บไซต์ https://stopcovid.anamai.moph.go.th/th/school/ 2) นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ประเมินความเสี่ยงของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ผ่าน Thai Save Thai (TST) 3) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 85 4) ผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณาวางแผนการประเมินตนเองของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร ตลอดจนบุคลากรของโรงเรียน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่ปฏิบัติงานในโรงเรียน ให้เฝ้าระวังตนเองไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน 5) เน้นให้นักเรียนได้เรียนในที่โล่ง งดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของนักเรียน หรือหากมีการรวมกลุ่มให้รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลและใช้เวลาน้อยที่สุด
6) จำกัดจำนวนผู้ปกครองและบุคคลที่จะเข้าภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อลดความแออัด กรณีที่ผู้ปกครองมารับบุตรหลานที่โรงเรียน ต้องจัดพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ปกครองบริเวณหน้าโรงเรียน 7) ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายนักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร บุคลากรของโรงเรียน และผู้มาติดต่อราชการทุกคน โดยเฉพาะนักเรียนให้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย 3 ครั้ง/วัน คือ ก่อนเข้าโรงเรียน ก่อนรับประทานอาหารกลางวัน และก่อนเดินทางกลับบ้าน พร้อมทั้งประสานผู้ปกครองให้ตรวจคัดกรองบุตรหลานก่อนมาโรงเรียน หากพบมีไข้ ไอ จาม หรืออาการอื่นใด ให้นักเรียนหยุดเรียน เพื่อสังเกตอาการที่บ้าน หรือพบแพทย์ และให้โรงเรียนขอความร่วมมือผู้ปกครองแจ้งข้อมูลการเจ็บป่วยของนักเรียนให้โรงเรียนทราบด้วย 8) ให้นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร บุคลากรของโรงเรียน ผู้ปกครอง และผู้มาติดต่อราชการ สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
9) ให้เว้นระยะห่างในห้องเรียน ระหว่างทางเดิน หรือในขณะทำกิจกรรมในโรงเรียน การย้ายห้องเรียน การเหลื่อมเวลาเรียน หรือเวลาพักรับประทานอาหาร 10) ให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ เจลแอลกอฮอล์ 11) ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่น ห้องน้ำ ลูกบิดประตู ตลอดจนอาคารสถานที่และบริเวณโรงเรียนโดยสม่ำเสมอ 12) ขอความร่วมมือผู้ค้าบริเวณหน้าโรงเรียน กำหนดพื้นที่ขายโดยเว้นระยะห่างจากหน้าโรงเรียนไม่น้อยกว่า 500 เมตร จัดเตรียมอาหารปรุงสุกใหม่ หากมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อให้ผู้ค้าหยุดขาย และรีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งปฏิบัติตนตามหลักสุขอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด 13) ให้โรงเรียนสื่อสารทำความเข้าใจและให้คำแนะนำผู้ปกครองติดตามข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ 14) กรณีโรงเรียนพบนักเรียนที่สงสัยติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค PUI ให้แยกเด็กออกมาจากผู้อื่น แจ้งผู้ปกครอง และแจ้งสายด่วนสุขภาพ 1646 ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ หรือแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อประเมินสถานการณ์ตามเกณฑ์สอบสวนโรค และ 15) นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครทุกคน ต้องตรวจคัดกรอง Antigen Test Kit (ATK) ก่อนเข้าโรงเรียน และมีการสุ่มตรวจเฝ้าระวังทุก 14 วัน