In Thailand
ร้อยเอ็ดประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสCOVID-19
ร้อยเอ็ด - ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
วันพุธที่ 22 กันยายน 2564 เวลา 13.30 น. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมนี้ได้มีการประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting ไปยังส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด นายปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด นายชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด พร้อมด้วยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดร้อยเอ็ด (ศปก.จ.รอ) เข้าร่วมประชุม
โดยที่ประชุมได้มีการหารือรับทราบถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และผลการดําเนินงาน ให้บริการวัคซีนโควิด-19 จังหวัดร้อยเอ็ด รับทราบ เรื่อง คําแนะนําในการจัดการศพที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในกรณีที่เป็นศพนิรนามหรือศพที่ไม่มีญาติมาติดต่อ รับทราบ เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค) ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 รับทราบการรายงานความก้าวหน้าการใช้จ่ายงบประมาณเชิงป้องกันและยับยั้งภัยพิบัติฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการสื่อสารความเสี่ยงและสร้างการรับรู้สําหรับประชาชน การดําเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการการดําเนินการ Smart Control and Living with COVID-19 จังหวัดร้อยเอ็ด การยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 สําหรับเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมให้ปลอดภัยและยั่งยืน ด้วยหลักการ COVID Free Setting และ Universal Prevention โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้
- อําเภอคัดเลือกสถานประกอบการ / องค์กร ดําเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal อย่างน้อยอําเภอละ 1 แห่ง
- อําเภอคัดเลือกสถานที่ดําเนินการตามมาตรการ Covid free setting
อย่างน้อยอําเภอละ 1 แห่ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวว่าขณะนี้จังหวัดร้อยเอ็ดผ่านพ้นจุดวิกฤตแล้วอัตราผู้ป่วยลดต่ำลงมากอยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมฝากทุกภาคส่วนยังคงต้องร่วมมือกันรักษามาตรฐานปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด รักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือเพื่ออยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัยและมีความสุข พร้อมย้ำว่าเรื่อง ATK ต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหารืออย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งต้องจัดอบรมการใช้ ATK ให้กับบุคลากรหน่วยงานต่างๆ และประชาชนให้สามารถใช้งานได้ สำหรับเรื่องเตียงขอให้ทุกอำเภอคงดำรงไว้พร้อมให้มีการหาหรือว่าควรมีไว้อำเภอละกี่แห่งตามความเหมาะสม สำหรับเตียงที่พังแล้วควรทำลายอย่างถูกวิธี และขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลสถานประกอบการ โรงงาน แคมป์คนงาน ฯลฯ เพื่อให้ปฎิบัติตามมาตรการที่กำหนด ย้ำว่าต้องไม่ประมาท สำหรับสถานศึกษา รวมถึงกระบวนการขนส่งและครอบครัวของนักเรียนนั้นจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อให้สามารถเปิดการเรียนการสอนแบบออนไซด์ได้โดยเร็ว
โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้กล่าวว่าจังหวัดร้อยเอ็ดได้จัดโครงการคนร้อยเอ็ดไม่ทิ้งกัน โดยตั้งกองทุนผ้าป่ากองทุนละ 99 บาท เพื่อช่วยเหลือบุตรของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยได้เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนกองทุนผ้าป่าฯ ทางหมายเลขบัญชี 6609674248 ธ.กรุงไทย ชื่อชัญชี คนร้อยเอ็ดไม่ทิ้งกัน พร้อมนี้จังหวัดได้กำหนดจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของจังหวัดร้อยเอ็ดในวันอังคารที่ 28 กันยายน 2564 เวลา 08.00 น. ณ วัดบ้านอ้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด
โดยมีกิจกรรมสำคัญประกอบด้วย 1) ทำบุญทักษิณานุปทานให้กับผู้เสียชีวิต 2) ถวายผ้าป่าฯ 3) มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตจำนวน 7 ราย พร้อมนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ย้ำว่าสำหรับการที่จะให้หน่วยงานต่างๆ สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้นั้นจะต้องจัดให้มีการอบรมทำความเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติ COVID Free Setting และ Universal Prevention ด้วย สำหรับหน่วยงาน องค์กรที่ขอจัดกิจกรรมรวมคนเกินกว่า 50 คนนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ร้วมกับสำนักงานสาธารณสุขฯ ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่ขอจัดกิจกรรมในพื้นที่ โดยจะต้องมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์การปฎิบัติตามมาตรการ งดกิจกรรมรับประทานอาหารร่วมกัน ปรับเปลี่ยนเป็นการแจกเข้ากล่องแบบ box set สำหรับโรงเรียนที่จะขอเปิดการเรียนการสอนจะต้องมีการยื่นเสนอแผนเผชิญเหตุด้วย และผ่านการพิจารณาประเมินจากคณะกรรมการฯ ด้วย