In News

น้ำป่าเขาใหญ่ท่วมเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทิ้งซากเศษไม้-ตามหาญาติหายไปกับน้ำ



คืบหน้าน้ำป่าเขาใหญ่-ทับลาน เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือไว้แต่ซากเศษต้นไม้ ขณะที่ชาวบ้าน-ญาติ-กู้ภัยฯเร่งค้นหาผู้ถูกน้ำพัดหาย 2ผัว-เมียพร้อมกับบ้าน!ท่ามกลางทะเลโคลน

เมื่อเวลา 12.30 น.  วันนี้   2 พ.ย.63    ผู้สื่อข่าว  จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่   มีฝนตกหนักหลังลอยกระทง   และได้มีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก  ไหลระบายลงคลองยาง  ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำคลองลำพญาธาร   น้ำไหลระบายไม่ทัน    น้ำในคลองได้เอ่อท่วมบ้านเรือนใกล้เชิงเขา   พร้อมพัดบ้าน

ทั้งหลังหายไป    พร้อมคนสูญหาย 2 คน    เหตุเกิดเมื่อคืนกลางดึก  วันที่  1 พ.ย.ที่ผ่านมา   มีน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน – ตำบล ,ถนนสาย 304หลายจุด  ในอ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี  และ ท่วมอุโมงค์เชื่อระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  ที่ให้ยวดยานวิ่งลอดผ่านด้านใน  ให้สัตว์ป่าเดินข้ามไป-มา ด้านบน  เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น    ญาติๆและ  ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.   หน่วยกู้ภัยฯ   ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้าน    ช่วยกันค้นหา     แต่ก็ยังไม่พบ ตามที่ได้เสนอรายละเอียด  อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้  นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด    ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่    ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน  ,ชาวบ้าน   20 คน และ   หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจ 30 นาย    เดินเท้าลุยโคลน    ค้นหาตามริมคลองลำพญาธาร    ที่มีแต่ซากไม้   น้อย-ใหญ่   ทับถมกันกองใหญ่    และ  พบทะเลโคลนปรากฏขึ้นมาแทน   หนารัศมี 1กม.   แต่ยังไม่พบร่างของผู้สูญหาย คือ   ลุงสำเนียง และ   ป้าโอ๋ อถมพรมราช   2 สามี – ภรรยา   ที่ถูกน้ำป่าพัดหายไปกับกระแสน้ำ  และบ้านทั้งหลัง

นายบุญบุญสิทธิ์    ทิพคูนอกเจ้าของบ้าน หลังดังกล่าว     กล่าวว่า    “คนที่สูญหายเป็นพี่เขย   กับพี่สาวของตนเอง    ตนปลูกบ้านไม้หลังนี้    ราคาล้านกว่าบาทให้ลุงสำเนียง และ   ป้าโอ๋ มาทำสวนให้        คืนวันก่อนลอยกระทง  ภรรยาและลูกสาว   ได้มานอนค้างอยู่ที่บ้านหลังนี้    

แต่วันเกิดเหตุ   คืนวันลอยกระทงพี่สาวกับสามี   บอกจะมานอนเฝ้าบ้านให้    และบอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ตลอดไป ค่อนสว่างญาติ    ได้โทรไปบอกว่าน้ำพัดบ้านและพัดพี่สาวกับสามีหายไปแล้ว    ตนรู้สึกช็อค!!!   และได้เดินทางออกมาจากกทม.เพื่อที่จะมาดูบ้าน   แต่ก็มาติดอยู่ที่หน้าอุโมงค์  ที่น้ำป่าท่วมไม่สามารถผ่านขึ้นมาได้     จึงตัดสินใจขับรถย้อนไปที่เขาใหญ่ทางปากช่อง   และวกมาทางปักธงชัยถึงเข้ามามาถึงบ้านได้

แต่ยังทำใจไม่ได้    ที่จะไปดูสภาพบ้านที่ไม่เหลืออะไรเลย    และซ้ำร้ายที่มาสูญเสียญาติถึง 2 คนพร้อม ๆ กัน    ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม    และได้ไปพักค้างที่โรงแรมแห่งหนึ่ง    ในพื้นที่ใกล้เคียง   กระทั่ง ทั้งรุ่งเช้าได้เดินมาดูบ้านที่เหลือแต่ซาก   

อยากฝากบอกถึงดวงวิญญาณของพี่สาวกับสามีว่า ขอให้ไปอยู่สุคติภพที่ดี ยังรักและคิดถึงอยู่เสมอ ขณะที่สภาพโดยน้ำท่วมตามพื้นที่ต่างๆได้ลดลงเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะที่อุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็นน้ำลดหมดแล้วสามารถเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติแล้วทั้งขาขึ้นไปอิสาน  และ ขาล่องภาคตะวันออก –ภาคกลาง”

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า  กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี  (กอ.ปภ.จ.ปราจีนบุรี )   ได้รายงาน   การเปิดการจราจรในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304    บริเวณอุโมงค์ที่ถูกน้ำท่วม    หมู่ที่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ว่า

ตามที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ดังกล่าว    จนทำให้ต้องทำการปิดการจราจร   บริเวณอุโมงค์ ในวันที่ 1 พ.ย. 63 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นมา นั้น

สถานการณ์ปัจจุบัน    ระดับน้ำในอุโมงค์ ได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แล้ว      สามารถเปิดการจราจร อุโมงค์ฝั่งทางไปจังหวัดนครราชสีมาได้แล้ว     สำหรับอุโมงค์ฝั่งจากจังหวัดนครราชสีมามาทางอำเภอกบินทร์บุรี     ระดับน้ำลดลงปกติแล้ว    แต่พื้นผิวจราจรมีดินเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้เร่งใช้รถบรรทุกน้ำฉีดเลนทำความสะอาดผิวจราจร จนสามารถการจราจรได้ในเวลา  19.26  น.  เมื่อคืนนี้(1พ.ย.)

และ  ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า     ได้มีหนังสือด่วน    จาก นายรณรงค์ นครจินดา   รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

ข้อความแจ้งประชาสัมพันธ์หน่วยราชการให้แจ้งประชาชน   ข้อความว่า   ...      ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี     ได้รับการประสานจาก ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปราจีนบุรีว่า     ตามที่มีฝนตกหนักมากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่   และ พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน     ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมคลองวังมืด   และคลองยาง   ในพื้นที่ตำบล บุพราหมณ์    ตำบลทุ่งโพธิ์    และ ตำบลนาดี     ตั้งแต่แต่เวลา 02.35 ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563     

ประกอบกับ เครื่องมือวัดน้ำในคลองยาง สถานี KGT.14 ถูกน้ำท่วม และทีมวัดน้ำอุทกภาคฯ ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้    ใน ขณะเดียวกันทีมวัดน้ำอุทกภาคฯ ได้ประเมินสถานการณ์จากระดับน้ำแล้วพบว่า มีปริมาณสูงกกว่าปี 2556 ที่ เคยสูงสุด ประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที

จึงคาดว่าน่าจะเกิดผลกระทบกับแม่น้ำปราจีนบุรี โดยเฉพาะประชาชน ที่พักอาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี    และในพื้นที่ตลาดเก่า อำเภอกบินทร์บุรี     ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังในช่วง 6 สัปดาห์ ที่ผ่านมา   และลดลงในระดับหนึ่งแล้ว      โดยอาจได้รับผลกระทบจากมวลน้ำดังกล่าว อีกครั้งหนึ่ง    ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม ป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นสมควรแจ้งเตือนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี ในอำเภอนาดี และอำเภอกบินทร์ โดยเฉพาะ ประชาชนในพื้นที่ตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี     ให้ติดตามข้อมูล สถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจาก น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในกรณีมีเหตุด่วนสาธารณภัย ให้แจ้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดปราจีนบุรี โทรศัพท์หมายเลข ๐-๓๗๔๕-๕๕๑๗-๑๙ โทรสารหมายเลข ๐-๓๗๔๕๔๔๒๐ ได้ตลอด 24    ชั่วโมง เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทันที สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี