In Thailand

ผู้ว่าฯร้อยเอ็ดประชุมคกก.ศูนย์อำนวยการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด



ร้อยเอ็ด – ผู้ว่าฯเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 3 ประจำปี 2564 ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

วันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลา 14.30 น. นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งที่ 3 ประจำปี 2564 ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พันตำรวจเอกสุริเดช วรรณสุทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ซึ่งมีวาระการประชุม ประกอบด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ ผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดด้านปราบปราม ด้านป้องกัน ด้านบำบัดรักษา และการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทั้ง 20 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด

นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงรุนแรงแต่ปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและลำเลียงภายในประเทศไม่ได้ลดระดับความรุนแรงลง ซึ่งพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดในปีงบประมาณ 2564 ยังคงมีปัญหาด้านการค้าและแพร่ระบาดยาเสพติดอยู่อย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลการจับกุมคดีสำคัญพบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดใช้พื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด / แหล่งพักยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนที่จะทำการขนลำเลียงไปส่งต่อให้กับเครือข่ายนักค้าเสพติดในพื้นที่นอกภาค ( กรุงเทพมหานคร /ปริมณฑล /ภาคใต้ ) และยาเสพติดบางส่วนก็ถูกนำกลับเข้ามาการค้าและแพร่ระบาดในพื้นที่ อำเภอที่ควรเฝ้าระวังในการถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด คือ อำเภอโพนทอง หนองพอกพนมไพร เสลภูมิ และสุวรรณภูมิ และกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่เข้ามาเคลื่อนไหวมีทั้งคนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและคนนอกพื้นที่ที่เข้ามาเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรับจ้างขนลำเลียงยาเสพติด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ มุกดาหาร อุดรธานี ยโสธร และจังหวัดอุบลราชธานี จากการจับกุมคดีสำคัญพบว่าจะมีนักค้าที่เป็นจังหวัดร้อยเอ็ดไว้คอยประสานงานและร่วมขบวนการหลายคดี ระดับการค้ายาบ้าปริมาณตั้งแต่ 100,000 เม็ดขึ้นไป และกัญชาแห้งอัดแท่งปริมาณตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป สำหรับกลุ่มผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพในพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง คือ กลุ่มผู้พ้นโทษ กลุ่มผู้เสพรายเก่า รายใหม่ เนื่องจากราคายาเสพติดถูกลง แบบการค้าที่สะดวกขึ้น เช่น การค้ายาเสพติดผ่านสื่อออนไลน์ ( Facebook /Massenger /  Line ) ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวเข้าถึงได้ง่ายและมีการค้าและแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ พื้นที่การค้าและแพร่ระบาดยาเสพติดที่ควรเฝ้าระวัง (ลำดับ 1-5) ได้แก่ 1.อำเภอเสลภูมิ 2.อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 3.อำเภอโพนทอง 4.อำเภอหนองพอก 5.อำเภอสุวรรณภูมิ และมีชนิดยาเสพติดที่มีการค้าและแพร่ระบาดมากที่สุดในพื้นที่ คือ ยาบ้า กัญชา ไอซ์ โดยช่วงอายุที่ควรเฝ้าระวังมากสุด คือ ช่วงอายุระหว่าง 20 - 35 ปี รองลงมาเป็นช่วงอายุระหว่าง 15 - 19 ปี และช่วงอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาชีพรับจ้าง ว่างงาน กลุ่มเยาวขนทั้งในและนอกสถานศึกษา