Travel Sport & Soft Power
สุดทึ่งชาวบ้านสร้างพระอุโบสถทำจากดินผสมแกลบด้วยแรงศรัทธา แห่งแรกของโคราช
นครราชสีมา - พบพระอุโบสถดินที่ผสมแกลบ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของประชาชนในพื้นที่กว่า 9 ปีแล้ว บนเนื้อที่ 11 ไร่ ที่นางอำไพ ฉะกระโทก อายุ 57 ปี เจ้าของที่ดิน ซึ่งได้บริจาคให้กับวัด เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่ และเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพูนแสงธรรม ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา พบพระอุโบสถดินที่ผสมแกลบ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของประชาชนในพื้นที่กว่า 9 ปีแล้ว บนเนื้อที่ 11 ไร่ ที่นางอำไพ ฉะกระโทก อายุ 57 ปี เจ้าของที่ดิน ซึ่งได้บริจาคให้กับวัด เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่ และเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ในการประกอบกิจของสงฆ์ต่างๆ
ซึ่งนางอำไพ เจ้าของที่ดินที่บริจาคให้กับวัดพูนแสงธรรม จำนวน 11 ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวได้มีกุฏิพระสงฆ์ ลานคุณย่าโม โรงครัว ห้องน้ำ และพระอุโบสถดินผสมแกลบ ซึ่งชาวบ้านที่มีจิตเลื่อมใสได้ช่วยกันนำดินตามไร่ตามนา มาผสมกับแกลบ สร้างพระอุโบสถ โดยใช้เวลา 4 ปีจึงแล้วเสร็จ โดยไม่มีค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว เป็นการช่วยกันคนละไม้คนละมือ ตามความถนัดของชาวบ้านแต่ละคน ซึ่งด้านหน้าพระอุโบสถจะพบกับการแกะสลักนูนเป็นรูปช้าง มีงายาวสวยงามทั้ง 2 ด้านก่อนเข้าประตู พอเข้าไปด้านใน จะพบกับพระสงฆ์องค์ใหญ่ตั้งสง่า เป็นที่เคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก และพื้นที่โดยรอบยังมีการแกะสลักภาพนูนเป็นรูปคุณย่าโม และการแกะสลักภาพนูนเป็นรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งภายในพบว่ามีลมพัดผ่านเข้ามาเย็นสบาย เหมาะแก่การประกอบกิจของสงฆ์หรือนั่งสมาธิ ส่วนด้านนอกพระอุโบสถ ก็ยังมีการแกะสลักภาพนูนเป็นภาพพระสงฆ์รอบพระอุโบสถ ถือว่าเป็นพระอุโบสถดินแห่งแรกของจังหวัดนครราชสีมา
ด้านพระสอนชัย อายุ 43 ปี ประธานสงฆ์วัดพูนแสงธรรม เปิดเผยว่า ตนมาจำวัดแห่งนี้ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ก็พบว่าพระอุโบสถดินแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองไม้ไผ่ ซึ่งได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีจึงแล้วเสร็จ ปัจจุบันได้ใช้เป็นที่ประกอบกิจของสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็น หรือเป็นที่ให้ญาติโยมมานั่งสมาธิ เพื่อฝึกจิตใจ ซึ่งตนในฐานะเป็นตัวแทนของสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็รู้สึกดีที่ประชาชนเห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนา ที่ได้ช่วยกันสร้างพระอุโบสถที่ทำจากดินผสมแกลบ จนสามารถอยู่ได้นานกว่า 9 ปีแล้ว โดยปัจจุบันก็ยังพบร่องรอยของดินแตกระแหงจนเห็นแกลบอย่างชัดเจน ซึ่งอาจจะต้องมีการซ่อมแซมเพื่อไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้
ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา