Travel Sport & Soft Power
ฮือ!กล้วยออกปลีกลางลำต้นหลังเมรุวัดดัง คอหวยแห่ขอโชคลาภตีเลขเด็ด
พัทลุง-แตกตื่นแห่ดูต้นกล้วยน้ำว้าออกผลกลางลำต้นของหลังเมรุวัดชื่อดังด้านไสยศาสตร์ระดับประเทศ
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า ที่บริเวณที่ดินถมใหม่ด้านหลังเมรุวัดเขาอ้อ ท้องที่ ม.3 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่และนอกพื้นที่ได้เดินทางมาดูต้นกล้วยน้ำว้า ซึ่งออกลูกกลางลำต้น จำนวน 9 หวี และชาวบ้านจำนวนหลายรายนำดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ด แต่ทุกๆคนปฏิเสธที่จะให้ถ่ายภาพด้านหน้าเนื่องจากอายคน โดยให้ถ่ายเพียงด้านหลังเท่านั้น และเกรงว่าจะสร้างความเสียหายให้กับทางวัด เนื่องจากวัดเขาอ้อนั้นนับเป็นสำนักไสยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยในตอนสายวันนี้ได้มีชาวบ้านเดินทางมาขอเลขเด็ดมากมาย และต่างคนต่างตีเป็นเลขเด็ดตามที่ตนเห็นแต่ไม่ยอมเปิดเผย
ทางด้านนายอนันต์ มณีประสิทธิ์ กำนัน ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน เผยว่า ก่อนหน้านี้พระปลัดวิเชียร สิรโชโต เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ ได้นำต้นกล้วยน้ำว้าประมาณ 20 ต้น มาปลูกไว้ในพื้นที่ที่ถมใหม่ของวัด เพื่อเตรียมสร้างเมรุหลังใหม่ หลังจากที่มีการก่อสร้างเมรุหลังใหม่ของวัด ซึ่งอยู่ห่างจากกำแพงวัดเขาอ้อประมาณ 200 เมตร กลุ่มคนงานก่อสร้างก็ได้เห็นกล้วยประหลาดดังกล่าวและได้แจ้งให้ตนทราบ หลังจากที่ตนเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นความจริง สำหรับตนนั้นเคยเห็นกล้วยออกลูกข้างต้นมาก่อนแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกล้วยตานี และกล้วยพังลา ส่วนกล้วยน้ำว้ายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ส่วนในกรณีที่ไม่อยากให้มีภาพเป็นข่าวนั้น เนื่องจากชาวบ้านเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดที่เป็นสำนักตักศิลาแห่งไสยเวทย์ที่มีชื่อดังโด่งดังของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า วัดเขาอ้อ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุงนั้น เป็นศูนย์รวมของสรรพวิทยาการหลากหลายแขนงมานานหลายร้อยปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นไสยเวทย์ คาถาอาคม ยาสมุนไพรนานาชนิด ฯลฯ ก็ล้วนได้รับการคิดค้นสืบสานส่งต่อกันมาจากบูรพาจารย์วัดเขาอ้อในอดีต จนวัดแห่งนี้ได้รับการขนานนามให้เป็น ‘สำนักเขาอ้อ’ หรือ ‘สำนักตักศิลามหาเวทย์แห่งปักษ์ใต้’ เนื่องจากลูกศิษย์ลูกหาหลายท่านของวัดเขาอ้อ ล้วนเป็นผู้มีมนต์คาถาเข้มขลัง คงกระพันชาตรี มีวีรกรรมสำคัญจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ ‘ขุนพันธ์’ (ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช) มือปราบหนังเหนียวแห่งปักษ์ใต้ ก็ได้เคยมาร่ำเรียนวิชาคาอาคม และอาบน้ำว่านในรางยาที่วัดเขาอ้อถึง 7 ครั้ง ครั้งละ 7 วัน ถือเป็นผู้เดียวในประวัติศาสตร์ที่ลงแช่ว่านอาบยาได้นานที่สุด ทำให้ขุนพันธ์กลายเป็นมือปราบหนังเหนียว และได้ออกปราบโจรผู้ร้าย เป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่ว