Travel Sport & Soft Power
ลำซิ่งแก้บนในป่าดงเย็นหาย21วันไม่ตาย ชี้หนีช้างจนหลงป่ากินใบไม้ปะทังชีวิต
ปราจีนบุรี-คืบ!จัดแก้บนด้วยลำซิ่งกลางป่า 6 รอบ หลังพบหนุ่มตัดยูคาหายตัวในป่า21วัน เจ้าตัวเผยอยู่ในป่าเตลิดหนีโขลงช้างป่าทุกวัน ปะทังขีวิตรอดอาศัยกินใบไม้กับน้ำปูใบไม้รองนอนกลางคืน ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมาผูกข้อมือเรียกขวัญต่อ ล่าสุดช่วงเย็นจัดแก้บนด้วยลำซิ่งกลางป่าดงเย็น 6 รอบหน้าศาลตารอด
เมื่อ12 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากกรณีนายทองสา วันทุมมา อายุ43ปี อยู่บ้านเลขที่19 หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หนุ่มรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสได้หายตัวกลางป่า21วัน เจ้าตัวเผยวันเกิดเหตุขับขี่รถ จยย.กำลังจะกลับบ้านจากฝั่ง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่มข้ามมารอยตะเข็บติดต่อกับ จ.ปราจีนบุรีบ้านวังทอง หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระหว่างทางเจอโขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทราโขลงใหญ่ ที่พากันออกนอกเขตที่อยู่ประจำ ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายเขตพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี) ข้ามฝั่งไป – มา เข้ามาหากินในเขตพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีอย่างต่อเนื่องจนเกือบกลายเป็นถิ่นที่อยู่ประจำไปแล้ว
จึงหนีช้างป่า เอาชีวิตรอด ด้วยความตกใจกลัวจึงวิ่งหนีและหาทางออกจากป่ายางพาราและป่ายูคาลิปตัสของเอกชนที่มีพื้นที่มากกว่าสองหมื่นไร่ไปได้จึงใช้ชีวิตอยู่ในป่า ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยโขลงช้างป่า ในแต่ละวันได้พบและแต่หนีช้างป่าเพราะฝูงช้างป่าเป็นฝูงใหญ่นับจำนวนไม่ถ้วนพวกมันหากินอยู่ในป่ายางพาราและป่ายูคาลิปตัส เพื่อเอาชีวิตรอดทุกวัน ท่ามกลางการติดตามหาของผู้นำท้องถิ่น ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มารดา ญาติ เพื่อนบ้าน และจิตอาสาฯช่วยตามหาตัวในป่าอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความเชื่อในการบนบานสานกล่าวกับศาลปู่ตาประจำหมู่ตา ,เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา ทำพิธีทางสงฆ์เพื่อขอเปิดป่า รวมถึงระดมผู้คนค้นหาออกติดตามกันตลอดทุกๆวันแต่ไม่พบตัว พบเพียงแต่ร่องรอยโขลงช้าง พบเพียงรถ จยย.นายทองสาที่จอดทิ้งไว้ และ กระท่อม(ขนำ)ที่พักที่ถูกโขลงช้างป่าพังจนราบเรียบ นั้น
เมื่อเช้าวานนี้( 11 ม.ค.) นายทองสา หนีออกจากป่าได้เป็นผลสำรวจ และได้มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้ไปส่งบ้านญาติและนำตัวไปพบพนักงานสอบสวน สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และทางญาติได้นำตัวกลับบ้านพร้อมจัดพิธีสู่ขวัญนำด้ายสายสิญจน์มาผูกข้อมือเรียกขวัญนายทองสาที่เอาชีวิตรอดจากป่ามาได้อย่างปลอดภัย
ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ ( 12ม.ค.) นายทองสาได้นอนอยู่บ้านไม้ยกพื้นสูงกับแม่ 2 คน ซึ่งนายทองสาที่ยังคงอิดโรย ใช้ไม้เท้าพยุงตัวในการเดินเนื่องจากขาอ่อนแรงเนื่องจากเดินและวิ่งหนีช้างตลอด 20 วันที่ผ่านมา
นายทองสากล่าวเล่าถึงวินาทีดำรงชีพรอดมาได้ว่า “ ตลอดเวลาที่อยู่ในป่านั้นไม่ได้กินข้าว อาศัยกินใบไม้ที่มีรสเปรี้ยว(ใบส้มเสี้ยว)และหากินน้ำตามหนอง คลองบึงที่พอมีน้ำอยู่ ตกกลางคืนนอนอยู่ในป่ากวาดใบไม้มารองนอนเพื่อความอบอุ่นให้กับร่างกาย
หลังจากตื่นนอนก็ออกเดินเพื่อหาทางออกจากป่า แต่ก็หาทางออกไม่พบ ในใจคิดว่าอย่างไรตัวเองก็ไม่มีชีวิตรอดจากป่านี้แน่นอน ในใจนึกถึงคุณพระและนึกถึงพระคุณพ่อ – แม่รวมถึงบอกกล่าวเจ้าที่ เจ้าป่าขอให้ออกจากป่านี้พ้นด้วยเถิด
กระทั่งเมื่อวานนี้(11ม.ค.) ได้เดินระหกระเหินออกมาจากป่าได้เป็นผลสำเร็จและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ไปส่งบ้านญาติซึ่งห่างจากป่ายางและป่ายูคา 3 กิโลเมตร
และ วันนี้ (12ม.ค.) ตั้งแต่เช้าได้มีผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านและใกล้เคียง ที่ทราบข่าวว่านายทองสายังมีชีวิตอยู่ออกมาจากป่าได้แล้วต่างพากันมาผูกข้อไม้ข้อมือเรียกขวัญให้กับนายทองสาอีกด้วย
ล่าสุด เวลา 16.30 น. ที่ศาลตารอด กลางป่าดงเย็น ญาติ ๆ ของนายทองสา วันทุมมา อายุ43ปี อยู่บ้านเลขที่19ม.22ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หนุ่มรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสต่างพากันพากันรำแก้บน จุดที่เจอนายทองสาที่หายตัวออกจากบ้านระหว่างเดินทางกลับจากที่ทำงานจะกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่22 ธ.0ค.64 และพบตัววานนี้ วันที่ 11 ม.ค.65 นี้
ก่อนหน้าญาติออกตามหาแต่ก็ไม่พบตัวกระทั่งญาติหมดหนทางที่จะตามหาตัวนายทองสาจนต้องพึ่งไสยศาสตร์ หาหมอดูมาทำพิธีเปิดป่าขอขมาเนื่องจากเชื่อว่าเจ้าที่บังตาไม่ให้พบตัวนายทองสาที่หลงอยู่ในป่ายางพาราและยูคาลิปตัสของเอกชนกระทั่งเมื่อวันที่11ม.ค.65นายทองสาสามารถพาตัวเองออกจากป่ามาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้นำตัวส่งกลับบ้านตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว นั้น
นายทองสากล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดเวลาที่หลงอยู่ในป่า21วันนั้นไม่ได้กินข้าวอาศัยกินน้ำและใบไม้เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ขณะขับจักรยานยนต์จะกลับบ้านนั้นได้ขับรถมาเจอช้าง 2 ตัวด้วยความกลัวจึงจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่กลางป่ายางพารา เมื่อจอดรถเสร็จมองเห็นช้างหลายสิบตัวพากันกรูเข้ามาจึงตัดสินใจวิ่งหนีและหลงอยู่ในป่ายางและป่ายูคาลิปตัส ช่วงที่อยู่ในป่าต้องคอยหลบช้างป่าฝูงใหญ่ที่มาหากินอยู่ในป่านั้นทุกวันเดินไปเรื่อยๆ
หิวก็กินใบไม้แทนข้าว และหากินน้ำตามหนอง คลอง ที่อยู่ในป่า กลางคืนก็กวาดใบไม้มารองนอนรู้สึกมาก็ออกเดินหนีช้างทุกคืนทุกวันและพบช้างทุกวันการที่ออกจากป่าได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี