In News
นักวิจัยมรภ.โคราชค้นพบข้าวเม่าอัจฉริยะ บำรุงดีกว่าข้าวช่วงอื่นชูเป็นข้าว'อุ้มรัก'
นครราชสีมา-นักวิจัย ม.ราชภัฎโคราช ค้นพบข้าวเม่าอัจฉริยะบำรุงสมองให้ประโยชน์ เกินกว่าข้าวระยะอื่นภายใต้แบรนด์ข้าว“อุ้มรัก” เผยข้าวหอมมะลิระยะเม่า ปลูกในพื้นที่ทุ่งสัมฤทธิ์ และพื้นที่เหมาะสมในจังหวัดนครราชสีมา เตรียมพัฒนาเป็นข้าวเชิงพาณิชย์เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ชาวนาไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เปิดตัว “ข้าวหอมมะลิ ระยะเม่า..ข้าวอัจฉริยะบำรุงสมอง”และจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ข้าว GIโคราช-ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ และงานแสดงสินค้าเกษตร นิทรรศการงานวิจัยด้านข้าวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการสื่อสารการตลาด สร้างการรับรู้และเชื่อมต่อระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภคข้าวโดยตรง
ทั้งนี้ เมื่อปี 2561 สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์การมหาชน)ได้สนับสนุนดำเนินงานวิจัยโครงการ “การผลิตและแปรรูปข้าวระยะเม่า พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และทับทิมชุมแพ (กข.69) สู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดขอนแก่น” โดย ผศ.ดร.วาสนา ภานุรักษ์และ คณะจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่อเป็นแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยที่เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิมีคุณภาพดีและมากที่สุด แก้ปัญหาข้าวเปลือกราคาตกต่ำและสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารอีกทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกข้าวเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากเป็นข้าวที่อยู่ในระยะแป้งอ่อน ผลการวิจัยพบว่า ข้าวหอมมะลิระยะเม่ามีปริมาณโฟแลตสูง เบต้าแคโรทีน วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซิน และมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค จากการทดลองใช้ข้าวหอมมะลิระยะเม่าเพื่อเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตทดแทนในการป้องกันการเกิดโรคทางเมตาบอลิกในหนูเมาซ์ที่ได้รับอาหารไขมันสูง พบว่า สามารถควบคุมระดับไขมันและระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ดีหรือกลุ่มโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหลอดเลือด และ โรคความดันฯ รวมถึงยังมีปริมาณโฟเลตสูงช่วยบำรุงสมอง เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ เยาวชน หรือประชาชนที่ต้องการรักษาสุขภาพทั่วไปได้
จากผลงานวิจัยดังกล่าวนำมาสู่การพัฒนางานวิจัยต่อเนื่องในระยะที่ 2 ในปี 2563 โครงการ“การสร้างและพัฒนาเครือข่ายการผลิตข้าวหอมมะลิระยะเม่าสู่ระบบเกษตรอัจฉริยะและสมาร์ทฟาร์มเมอร์ด้วยกลไกสหกรณ์การเกษตรประชารัฐ จังหวัดนครราชสีมา”โดย ผศ.ดร.วาสนา ภานุรักษ์และ คณะ เพื่อพัฒนานวัตกรรมกระบวนการผลิตและควบคุมการเขตกรรมข้าวหอมมะลิระยะเม่าให้ได้ข้าวเปลือกและข้าวสารระยะเม่าในสภาวะที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาสู่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ได้ และสร้างและยกระดับการพัฒนาเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตข้าวหอมมะลิระยะเม่าสู่ Smart Farmer และ Smart Farming ตลอดห่วงโซ่การผลิต ขับเคลื่อนนโยบายภาคการเกษตรและยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจฐานรากสู่เป้าการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ ด้วยกลไกสหกรณ์การเกษตรประชารัฐในจังหวัดนครราชสีมาโดยมีเป้าหมายสามารถลดปริมาณปัจจัยการผลิตได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ต่อปี และเกิดการกระจายรายได้ของกลุ่มเกษตรกร/กลุ่มวิสาหกิจที่ร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 240,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตลอดไป
ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา