Authority & Harm
สาวอุดรฯแจ้งจับ3ท้าวแชร์บ้านสามสหาย ในชื่อ'วรรณเดือนดาว'เผยเสียหายนับล้าน
อุดรธานี-สาวอุดรฯ แจ้งความจับ3ท้าวแชร์บ้านสามสหาย “วรรณเดือนดาว” ได้รับความเสียหายคนละหลายหมื่นบาท โดย น.ส.เอ นามสมุติ เสียหาย 268,399 บาท น.ส.บี นามสมมุติ เสียหาย 164,000 บาท และ น.ส.ซี นามสมมุติ เสียหาย 99,000 บาท รวมค่าเสียหาย 528,399 บาท
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก ผู้เสียหายจากการเล่นแชร์ “บ้านออมเงินออมทอง บ้านสามสหาย” โดยมีผู้เสียหายเป็นหญิง 3 คน ชาว จ.อุดรธานี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เข้ามาแจ้งความ โดยให้การว่า โดนโกงแชร์ แชร์ออมเงิน แชร์ออมทอง ชื่อบ้าน ”วรรณเดือนดาว” หรือว่า “บ้านสามสหาย” หลังจากที่หลงเล่นแชร์วงดังกล่าว ได้รับความเสียหายคนละหลายหมื่นบาท โดย น.ส.เอ นามสมุติ เสียหาย 268,399 บาท น.ส.บี นามสมมุติ เสียหาย 164,000 บาท และ น.ส.ซี นามสมมุติ เสียหาย 99,000 บาท รวมค่าเสียหาย 528,399 บาท
โดยผู้เสียหายได้ถ่ายเอกสาร หน้าเพจเฟซบุ๊กของวงแชร์ดังกล่าว พร้อมเอกสารหลักฐานการโอนเงินให้ท้าวแชร์ ซึ่งเฟซบุ๊กท้าวแชร์ทั้ง 3 คน ใช้เฟซบุ๊กชื่อ คนที่ 1. WUN JANG คือ น.ส.วรรณ หรือ น.ส. กนกวรรณ ศรีจันทร์ อายุ 32 ปี ต.นาเหล่า อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู คนที่ 2.SIRINAPHA KUNKEELEAK คือ น.ส.ดาว หรือ ศิรินภา ขุนขี้เหล็ก อายุ 32 ปี ต.นาเหล่า อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู และคนที่ 3.DUEAN SUWANNASUP คือ น.ส.เดือน หรือ น.ส. ศิริพร สุวรรณทรัพย์) อายุ 32 ปี ต.วัดธาตุ อ.เมือง จ.หนองคาย
ซึ่งผู้เสียหาย ร่วมกันเปิดเผยว่า ตนเริ่มมาเล่นแชร์หลังจากเห็นรุ่นพี่ที่ทำงานเล่น แล้วได้เงินกลับมา ตอนแรกก็ได้เล่นแชร์ทองกับรุ่นพี่ ได้กลับมาอยู่ 2-3 วง ซึ่งตนเห็นรุ่นพี่มาโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า มีแชร์ออมเงิน ตนเลยได้ทักไปถามว่า มันได้อย่างไร รุ่นพี่ตอบกลับมาว่าเงินต้น 1,000 บาท หลังจากนั้น 10 วัน จะได้เงินกลับคืนมารวมทั้งดอกเบี้ย 1,130 บาท ตนจึงตัดสินใจลงทุนไป ช่วงแรกๆ ก็ได้เงินกลับมาจริง ตนลงทุนไป 10,000 บาท หลังจากนั้น 10 วัน ได้เงินกลับมา รวมทั้งดอก 11,300 บาท หลังจากนั้นตนก็ลงทุนเพิ่มไปก็ยังได้มาตลอด จนมาถึงวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ซึ่งตนจะได้เงินกลับมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 แต่พอมาถึงวันที่ 25 ตุลาคม ท้าวแชร์ก็โพสต์ปิดบ้านแชร์ในเฟซบุ๊ก จากนั้นก็ติดต่ออะไรไม่ได้เลย
ซึ่งลงทุนไปทั้งแชร์ทองและแชร์เงินรวมทั้งหมด 9 หมื่นกว่าบาท ได้กำไรกลับมาอยู่ประมาณ 4-5 หมื่นบาท หลังจากท้าวแชร์ปิดเฟซบุ๊กไป ก็มีคนเริ่มส่งข้อความมาบอกต่อกันในกลุ่ม โดยท้าวแชร์อยู่ที่ จ.หนองคาย หนองบัวลำภู และ จ.ชลบุรี ซึ่งเดือนกับดาวเป็นฝาแฝดกัน ที่ผ่านมาตนมีความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการโกง เพราะทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี ดูแล้วไม่คิดจะเป็นคนมาทำอะไรแบบนี้ จึงทำให้มีความมั่นใจในระดับหนึ่งพอสมควร ซึ่งผู้เสียหายกลุ่มอุดรธานี-หนองบัวลำภู ที่สามารถรวมกลุ่มกันได้ตอนนี้มีอยู่ 107 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายในกลุ่มที่แจ้งความไปแล้วส่วนหนึ่ง คิดว่าคงจะมีคนทยอยเดินทางมาแจ้งความเพิ่มอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงเชื่อแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้ามีข่าวออกมาบ่อยมาก ผู้เสียหาย ตอบว่า พวกตนก็เห็นข่าวอยู่ แต่ว่าเพราะเป็นคนที่ทำงานด้วยมานาน และรู้จักกันเป็นการส่วนตัว เลยทำให้เชื่อใจแบบสนิท ซึ่งลักษณะแชร์แบบนี้เหมือนกับ “แชร์แม่มณี” แต่ตนก็ไม่ทราบว่าผลกำไรเป็นยังไง แต่แชร์นี้ให้ดอกเบี้ยน่าจะเยอะกว่าของ “แชร์แม่มณี” ซึ่งเงินที่พวกตนเอาไปลงทุนเป็นเงินที่เก็บเอาไว้ ไม่ได้ไปกู้มา พวกตนลงทุนไปก็เพราะความอยากได้ดอกเบี้ยที่สูง เพราะได้กลับมาครั้งแรกง่าย ก็พากันดีใจ ก็เลยลงทุนไปอีกเรื่อยๆ ตอนนี้ท้าวแชร์ทั้ง 3 คนที่ทราบยังอยู่ในประเทศ และไม่ได้ไปไหนไกล เพราะว่าท้าวแชร์ทั้งสามคน มีลูกยังเล็กอยู่ จึงคิดว่าคงจะไม่ได้ไปไหนไกล
อยากจะฝากคนที่เล่นแชร์ และกำลังจะลงทุนไปเล่นว่า อย่าโลภ แต่คนเราพอเห็นคนเล่นได้เงินมาง่าย และด้วยสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี เมื่อเห็นได้เงินเร็ว ก็ขาดความยั้งคิดไปนิดหนึ่ง ก็เสียดายเงินที่ลงทุนไปอยู่ แต่ว่ามันเป็นไปแล้วคงจะต้องยอมรับ ถึงตอนนี้แล้วไม่คิดว่าจะได้เงินคืน เพราะดูแล้วคงจะไม่ได้คืน แต่ก็ยังหวังอยู่บ้างที่จะได้เงินคืน เพราะมีคนบอกว่า เงินที่เขาเอาไปซื้อบ้าน ซื้อรถ กินหรู เราเห็นในเฟซของเขา ที่อาจจะได้คืนมาในส่วนนี้”
ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความ และลงบันทึกไว้เป็นหลัก หลังจากนั้นจะนัดผู้เสียหายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อที่จะดูยอดความเสียหายที่แท้จริง จากนั้นจะรวบรวมเอกสารหลักฐาน รายงานผู้บังคับบัญชา เนื่องจากมีความเสียหายจำนวนมาก และน่าจะมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม หลังจากนั้นจะได้รวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี