Health & Beauty
สธ.ทีเส็บปลื้มไทยแลนด์ฯเฮลท์เอ็กซ์โป ประสบผลสำเร็จจับคู่ธุรกิจกว่าหมื่นล.
กรุงเทพฯ-ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 ปิดงานยิ่งใหญ่ ประสบความสำเร็จเกินคาด กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และหน่วยงานพันธมิตรผู้ร่วมจัดงานปลื้มตลอด 4 วัน ของการจัดงาน ประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมจำนวนมาก เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถสร้างมูลค่าการเจรจาการค้า การลงทุน การจับคู่ธุรกิจและการจำหน่ายสินค้าในธุรกิจการแพทย์และสุขภาพกว่า 10,658 ล้านบาท พร้อมได้รับการชื่นชมจากผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ด้านการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการกระจายวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ทำให้สามารถเดินหน้าจัดงานฯ ได้อย่างยิ่งใหญ่
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง ความสำเร็จของการจัดงานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 ที่พึ่งจบไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาว่า แม้จะเป็น ครั้งแรกของการจัดงานและผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายจนต้องเลื่อนการจัดงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ถึงวันนี้ นับได้ว่าตลอดระยะเวลาการจัดงาน 4 วันที่ (17- 20 มีนาคม 2565) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดงาน ทั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้วางไว้
โดยการจัดงานเน้นไปที่การสนับสนุนและการจัดแสดงในลักษณะห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ด้วยแนวคิด “การขับเคลื่อนนวัตกรรม การดูแลสุขภาพอัจฉริยะ” (Empowering Smart Healthcare Innovations) ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์และสาธารณสุขได้รับประโยชน์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความสามารถและการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย ล่าสุดประเทศไทยมีโรงพยาบาลได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2565 (The World's Best Hospitals 2022) มีระบบการบริหารจัดการโรคติดต่อ และวัคซีนที่ดี มีความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ทำให้เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติว่า ประเทศไทยเป็นเมืองเป้าหมายด้านสุขภาพของโลกอย่างแท้จริง
โดยการจัดงานฯ ในครั้งนี้ยังได้รับคำชื่นชมจาก ดร.เทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ให้เกียรติร่วมพิธีเปิดงานฯ ผ่าน Video Conference ซึ่งประกาศความเชื่อมั่นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และระบบวัคซีนของโลก โดยเน้นย้ำให้ทุกประเทศทำงานร่วมกันในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และร่วมกันบริจาควัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้น้อย พร้อมแสดงความยินดีกับประเทศไทยที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการกระจายวัคซีนได้เป็นอย่างดี จนทำให้เกิดการจัดงานครั้งนี้ขึ้น ซึ่งการสานต่อความสำเร็จของการจัดงานฯ นั้น จะเป็นการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo ในปี 2571 ภายใต้ชื่องาน “Expo 2028 – Phuket Thailand” รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรไทย การแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาพื้นบ้าน รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปคในปี 2565
ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ความสำเร็จของการจัดงานฯ ครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือเป็นอย่างดีของทุกฝ่ายทั้งพันธมิตรภาครัฐและเอกชนภายใต้แนวทาง หนึ่งกระทรวง หนึ่งงานนิทรรศการ (One Ministry One Expo) เพื่อเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ โดยการสร้างงานมหกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับชาติที่ใหญ่ที่สุด นอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนภายในประเทศและนานาชาติแล้ว ยังสร้างรายได้ที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงอีกด้วย
ในฐานะที่เป็นงานที่เกิดขึ้นครั้งแรกและยังอยู่ในสถานการณ์โควิด เราถือว่าประสบความสำเร็จสูงมากสามารถสร้างมูลค่าจากการค้า การเจรจาธุรกิจ การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งในแบบ Online และ On Site ได้สูงถึง 10,658 ล้านบาท โดยเป็นการจับคู่ธุรกิจแบบ Online ทั้งหมด 241 คู่ธุรกิจ และ On Site ทั้งหมด 200 คู่ธุรกิจ และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้อีกจาก E-Marketplace ของการจัดงาน ซึ่งยังคงเปิดให้บริการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.thailandhealthexpo.com
นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านธุรกิจจากการจัดงานแล้ว จำนวนผู้เข้าร่วมงานยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 5 หมื่นคน ซึ่งการจัดงานแบบไฮบริด (Hybrid) ทำให้มีความสะดวกต่อการเข้าร่วมงานของทั้งผู้ร่วมงานในประเทศและต่างประเทศที่สามารถเยี่ยมชมการจัดงาน ร่วมฟังการประชุมสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจต่างๆ และร่วมกิจกรรมกับการจัดงานได้เสมือนมาร่วมการจัดงานจริงผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงยังได้รับความสนใจจากประชาชนในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กและวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 อีกเป็นจำนวนมาก
งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป 2022 ถือเป็นต้นแบบและมาตรฐานใหม่ของการจัดงานตามแนวทางปฏิบัติสำหรับการจัดงานไมซ์ตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID free setting) ภายใต้การจัดงานแบบ 2HY (Hygiene & Hybrid) ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการจัดงานเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจะสร้างความมั่นใจต่อการจัดประชุม สัมมนา การจัดงานแสดงสินค้าและงานอีเว้นต์ต่าง ๆ ในประเทศให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างเต็มศักยภาพและปลอดภัย