Travel Sport & Soft Power

'ขนมเขียวมรกต'ขนมที่ขึ้นชื่ออำเภอนาดี คู่กับกาแฟยามเช้าชี้อร่อยออเดอร์ล้นมือ



ปราจีนบุรี-ผู้สื่อข่าวปราจีนบุรี จะพามารู้จักชวน  ไปชิมของหวานยามเช้าเคียงคู่กาแฟ ชา หรือรายการอื่นๆตามใจชอบหรือเป็นของว่างไว้ต้อนรับแขกในบ้านรีสอร์ทที่ทำงานก็มีเสน่ห์ไม่น้อยมาชิมเมนูขนมเขียว

วันนี้25เมย.65ผู้สื่อข่าวจปราจีนบุรีรายงานว่าจะพามารู้จักชวน  ไปชิมของหวานยามเช้าเคียงคู่กาแฟ ชา หรือรายการอื่นๆตามใจชอบหรือเป็นของว่างไว้ต้อนรับแขกในบ้านรีสอร์ทที่ทำงานก็มีเสน่ห์ไม่น้อยมาชิมเมนูขนมเขียว  ร้านแม่ปุก ขายมานานถึง 30 ปี ปัจจุบันเหลือน้อยร้านกันแล้ว   

แต่ก็ยังมีลูกค้าทั้งเก่าและใหม่สั่งเข้ามาจนต้องเพิ่มสาขาอีกแห่งให้ลูกสาวคนเก่งดูแลรับออร์เดอร์ จากวันละไม่กี่กล่องมาเป็น 1200 ถึง 1500 กล่องต่อวัน ที่สำคัญยังคงขายราคาเดิมกล่องละ 8 ชิ้น ราคา20 บาท รสชาติเหมือนเดิม

หลายคนที่ผ่านขึ้นมาแถว อ.นาดี มักจะนึกถึงขนมเขียว แม่ปุก หรือคุณแม่ บุญส่ง  บุดดา เลขที่ 169 หมู่ 1  ต.สันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี แม้จะต้องขับรถเข้าไปในตัวตลาดสำพันตา  ร่วมสิบกิโลเมตร แต่ด้วยชื่อเสียงของความอร่อยระยะทางจึงไม่ใช่อุปสรรค แต่บางครั้งมาถึงของหมดเพราะถูกจองเต็มทำให้หลายคนต้องโทรสั่งจองก่อนจึงจะได้รับประทาน

ปัจจุบันแม้จะมีการเพิ่มสาขาอีกแห่งที่มุมสี่แยกตลาดอุดมสุข ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยคุณ วิไลภรณ์  พันเรือง ลูกสาวคนเก่งเป็นผู้ดูแลและทำส่งให้กับลูกค้า คุณวิไลภรณ์ บอกว่า แม้จะเป็นอีกสาขาแต่สูตรเดียวกันทุกอย่าง แป้งผสมใบเตยเหนียวนุ่มที่เป็นสูตรเฉพาะ กับไส่ถั่วเน้นสดใหม่ผสมกับมะพร้าวทึนทึกใส่เกลือน้ำตาลเป็นรสชาติมาตรฐานทานเมื่อไหร่ก็ยังคงรสชาติเดิมทุกอย่าง ซึ่งเป็นสูตรของคุณแม่ที่หลายคนชื่นชอบในแต่ละวันจึงมีลูกค้าสั่งเข้ามา1200 ถึง 1500 กล่อง รวมกันทั้งสองสาขา โดยคุณแม่ปุกจะอยู่ที่สำพันตา ที่เดิม ส่วนที่ตลาดอุดมสุข ตนดูแลเปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง บ่าย 3 โมง คุณวิไลภรณ์ บอกด้วยว่า ตอนนี้นอกจากขนมเขียวแล้วยังมีขนมเปียกปูนใบเตยที่หวานหอมแป้งนุ่มเพิ่มมาอีกอย่างให้ลองทาน

ส่วนลูกค้ามีทั้งในพื้นที่ นักงานโรงงานอุตสาหกรรม  รวมถึงนักท่องเที่ยวที่รู้ก็จะแวะมาซื้อก่อนเดินทางต่อ มีบางคนตอนกลับยังแวะมาซื้อกลับบ้านก็มี  ขอย้ำว่าถ้าอยากทานขอให้โทรที่เบอร์ 081-8658042 และ 087 – 9874877 จะได้รู้ว่าตำนานแห่งความอร่อยนั้นเป็นยังไง 
                       
และกล่าวถึงความเป็นมาของขนมเขียวมรกต หรือเขียวใบหยกนี้ ว่า   เป็นขนมที่ขึ้นชื่อที่สุดของอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรีเป็นขนมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นโดยแท้

ขนมเขียวมรกตแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาที่เป็นกระบวนการ ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ และกรรมวิธีทำให้สุกโดยอาศัยฝีมือของผู้ทำเป็นประการสำคัญวัตถุดิบที่นำมาทำแยกเป็น 2 ส่วน คือตัวแป้งและไส้

ตัวแป้งเป็นแป้งที่ได้จากข้าวเจ้าผสมใบเตยซึ่งให้ทั้งสีเขียว และกลิ่นหอมเย็นชวนชิมปนกับน้ำตาลทรายให้รสออกหวานเล็กน้อยส่วนไส้ขนมนั้นประกอบด้วย มะพร้าวขูด ถั่วเขียวผ่าซีกนึ่งจนสุกผสมกันกับเกลือให้มีรสชาติเค็มปนมันจากมะพร้าวกรรมวิธีที่ทำให้สุก

จะเลือกเอาหม้อที่หุงหาอาหารในครัวเรือนนั้นมาใช้ถ้ามีหม้อที่ไม่มีหูจับ เช่น หม้อกลม หรือ หม้อดินจะสะดวกต่อการทำเพราะต้องใช้ผ้าขาวบางหรือผ้าสีขาวมาปิดปากหม้อไว้เจาะผ้านั้นให้เป็นรูกว้างประมาณเท่าไข่ไก่ขนาดเล็ก เพื่อให้ไอที่ขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้นี้เติมน้ำในหม้อแล้วนำตั้งบนเตาไฟ เมื่อน้ำเดือดพล่านแล้วจึงตักแป้งที่เตรียมไว้

หยอดพร้อมละเลงเป็นแผ่นกลมให้บางพอประมาณลงบนผ้าที่ปากหม้อนั้น  พร้อมทั้งหาฝามาครอบปิดไว้ กะพอให้ไอน้ำขึ้นมาตามรูที่เจาะไว้ทำให้แป้งสุกเมื่อแป้งสุกแล้ว ใช้พายซึ่งทำจากไม้ไผ่อันเล็กๆ บางๆ ขนาดเท่านิ้วมือนำมาแซะลอกออกไปวางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิรอไว้กันติดก้นจาน

แล้วนำไส้ขนมที่เตรียมไว้มาหยอดใส่ให้ได้ครึ่งหนึ่งของแป้ง แล้วพับอีกครึ่งมาปิดทับจะได้ตัวขนมที่เสร็จแล้วรูปร่างคล้ายกับถั่วแปบ แต่มีสีเขียวและรสชาติหอมหวาน มันและอร่อย

ส่วนผสมไส้   ถั่วเขียวเราะเปลือก 0.5 กิโลกรัม  มะพร้าวทึนทึก 1 ลูก  น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น

วิธีการทำ   แช่ถั่วเขียวค้างคืน 1 คืนล้างให้สะอากนำไปนึ่งให้สุก   ขูดมะพร้าวทึนทึกเป็นเส้นหยาบๆ นำไปนึ่งให้สุกนำถั่วเขียวและมะพร้าว, น้ำตาลทราย, เกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันตามสัดส่วน ชิมรสให้อร่อยตามใจชอบ

ส่วนผสมของแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 2.5 ถ้วยตวง
แป้งมันสำปะหลัง 1.5 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 7 ถ้วยตวง
ใบเตยตามความเหมาะสม

วิธีการทำ  ล้างใบเตยให้สะอาดนำมาหั่นเป็นฝอยแล้วนำปั่นกับน้ำปูนใสให้ละเอียด   บีบเอาแต่น้ำแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง   นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทรายผสมกับน้ำใบเตยตามสัดส่วนแล้วใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน นำแป้งที่ผสมแล้วมาทดลองว่าแข็งหรือนิ่มจนเกินไปหรือไม่ โดยนำแป้งลงละเลงบนผ้าที่ผูกปากหม้อนึ่งที่น้ำเดือดแล้ว โดยละเลงเป็นวงกลมใช้ฝาหม้อปิดไว้ประมาณ 1 นาทีแป้งจะสุก

ใช้ไม้ที่เหลาแบนๆ บางๆ แคะแป้งออกจากผ้า ถ้าแป้งขาด แสดงว่าแป้งนิ่มเกินไปให้เติมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้า ถ้าแป้งแข็งเกินไปให้เติมน้ำปูนใสและทดลองเนื้อแป้งใหม่ ถ้าส่วนผสมแป้งดีแล้วให้ตักแป้งละเลงบนผ้าให้เป็นวงกลม   ใช้ไม้แคะออกมาวางบนก้นจานที่ทาหัวกะทิไว้ก่อน เพื่อไม่ให้แป้งติดบนก้นจานนำแป้งที่เตรียมไว้ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนชาแล้วพับครึ่ง วางใส่ถาดพร้อมเสิร์ฟ

มานิตย์  สนับบุญ/ปราจีนบุรี