Authority & Harm
ศปป.4 ลุย2อ.แพร่หลังชาวบ้านร้องเรียน พื้นที่เมินเฉยชี้พบไม้ผิดกม.นับร้อยท่อน
แพร่-ศปป.4 ลุย 2 อำเภอพื้นที่จังหวัดแพร่ หลังชาวบ้านร้องเรียนขอให้ตรวจสอบไม้ผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เมินเฉย พบไม้ผิดกฎหมายหลายร้อยท่อน บางส่วนเอกสารไม่ตรง
ชุดปฏิบัติการ ศปป.4ฯ นำโดยพันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน., ศูนย์ป้องกันและปราบปราม ที่ 3 ภาคเหนือ กรมป่าไม้, หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ภาคเหนือ, ตำรวจ ศปทส.ภ.5 และศปทส.ตร., หน่วยประสานงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่, เจ้าหน้าทื่ตำรวจ ตชด ที่ 32 พะเยา พร้อมฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ เข้าตรวจสอบพื้นที่อำเภอเด่นชัย และอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบขนไม้ผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้วแต่กลับเพิกเฉยไม่เข้าทำการตรวจสอบ จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียน โดยเข้าตรวจสอบ ทั้งหมด 6 จุด ใน 2 อำเภอ ในจุดแรกเป็นการดำเนินกิจการของโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร ห้างหุ้นส่วนจำกัด เด่นชัยพนา (โดยนายสุรพล โล่ห์นิมิตร) เลขที่ 277 หมู่ที่ 5 ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ตามหนังสือส่วนป้องกันและกิจการพิเศษ ที่ ทส 1605.62/632 ลงวันที่ 20 เมษายน 2565 ส่งสำเนาหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องร้องเรียน เลขรับ 2549 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2565 กรณี “ชาวบ้านห้วยกูด อำเภอเด่นชัย ได้รับความเดือดร้อนกับโรงเลื่อยไม้นรก ขายอยู่ติดสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สาขาเด่นชัย บ้านห้วยกูด อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ โดยนำไม้ยางนา จำนวน 400 – 500 ท่อน เข้ามาเลื่อยแปรรูปก่อให้เกิดเสียงดังและฝุ่นละอองฯพบกับนายสุรพล โล่ห์นิมิตร อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 หมู่ที่ 5 ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ แสดงตัวเป็นเจ้าของ ก่อนทำการตรวจสอบโดยรอบ พบไม้ท่อนกองอยู่จำนวน 3 กอง เป็นไม้ยางนา จำนวน 46 ท่อน ที่มีลักษณะใหม่ ไม่พบรูปรอยดวงตราใดๆ บริเวณหน้าตัดของไม้ โดยมีหนังสือรับรองการทำไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ จำนวน 7 ฉบับ มีจำนวน และปริมาตร ไม่สัมพันธ์กันกับบัญชีไม้และเอกสารที่นายสุรพลฯ นำมาแสดงต่อคณะเจ้าหน้าที่
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข้อร้องเรียนว่ามีการนำไม้ผิดกฎหมายเคลื่อนย้ายออกจากโรงงานแปรรูปไม้แล้วนำออกมาเก็บไว้ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ โดยมีนางบุญณิชา เสาร์นอก บ้านเลขที่ 79/1 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านเวียง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ เป็นผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของไม้นำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบบริเวณที่นำไม้มาเก็บไว้เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่ดังกล่าวเป็นสวนมีรั้วล้อมรอบขอบชิด ประตูทางเข้าทำด้วยสังกะสีปิดอยู่ ก่อนเข้าตรวจสอบ คณะเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายสุทัศน์ วิกาหะ ผู้ใหญ่บ้านบ้านบุญเริง หมู่ที่ 4 มาเป็นพยานเข้าตรวจสอบโดยมีนางบุญณิชา เสาร์นอก ยินยอมให้คณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยเป็นผู้ไขกุญแจเปิดประตูนำคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในบริเวณสถานที่ดังกล่าวด้วยตนเอง บริเวณพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ พบโรงงานแปรรูปไม้เก่าหลังคามุงด้วยสังกะสีตั้งอยู่กลางพื้นที่ไม่มีอุปกรณ์การแปรรูปไม้ติดตั้งอยู่แต่อย่างใด พบแต่เศษขี้เลื่อยเก่ากองอยู่จำนวนหนึ่ง ตรวจสอบโดยบริเวณรอบโรงงานพบไม้ประดู่ จำนวน 3 ท่อน และไม้สัก จำนวน 11 ท่อน ไม่ปรากฏรูปรอยดวงตราอื่นใดของทางราชการ และเอกชนตีประทับไว้แต่อย่างใด อีกทั้งไม่ปรากฎร่องรอยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อนแต่อย่างใด นางบุญณิชา เสาร์นอก แจ้งว่าสถานที่นี้เป็นของ นายณัฐฐพงษ์ ประพงษ์ภัฒน์ โดยนางบุญณิชาฯ อ้างว่าตนเองได้ทำการขอเช่าพื้นที่จากนายณัฐฐพงษ์ ประพงษ์ภัฒน เพื่อจะทำเรื่องยื่นขอตั้งโรงงานแปรรูปไม้ชั่วคราว เป็นรายเดือน เดือนละ 6,000 บาท แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่า นางบุญณิชาฯ ให้การว่าไม้ดังกล่าวเป็นของนายอนุพงษ์ วันชัย ชื่อเล่นลอย ชาวบ้านบุญเริง หมู่ที่ 4 ต.บ้านเวียง กองอยู่ในแปลงโฉนดที่ดินก่อนหน้าที่ตนเองจะมาขอเช่าพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ให้นางบุญณิชาฯ โทรศัพท์ติดต่อสอบถามนายอนุพงษ์ วันชัย แล้วแจ้งว่าไม้ประดู่และไม้สักมีเอกสารการได้มาโดยชอบตามกฎหมายแต่วันนี้ไม่สามารถนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากวันนี้อยู่ต่างจังหวัดจะนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ได้หลังจากกลับมาจากต่างจังหวัด โดยให้นำเอกสารหลักฐานการได้มาของไม้โดยชอบตามกฎหมายมายื่นแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 ส่วนอีกกองห่างประมาณ 20 เมตร พบไม้ยางนาท่อนกองอยู่นับจำนวนได้รวม 102 ท่อน ซึ่งนางบุญณิชาฯ และนางจันทกานต์ ฝ่าเรือนดี ได้นำเอกสาร สป.15 ไม้ตัดจากสวนป่าจังหวัดอุตรดิตถ์มาแสดง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม้มีหมายเลขในบัญชีไม้ไม่ตรง ขนาดความโต จำนวน ไม่สัมพันธ์กันกับเอกสาร สป.15 ที่นำมาแสดงจึงอายัดไม้ทั้ง 102 ท่อน และเอกสาร สป.15 ไว้เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน เรื่องการทำไม้ที่ไม่ถูกกฎหมายจำนวน 4 จุด ช่วงเช้าเข้าตรวจพื้นที่อำเภอเด่นชัย พบว่ามีไม้ยางนาซึ่งเป็นไม้หวงห้าม มีหลักฐานนำมาแสดง เป็นไม้ที่ตัดมาจากที่ดิน มีเอกสารสิทธิ์ จากการตรวจสอบหลักฐานไม่ตรงและไม่สอดคล้องกับไม้ที่มีอยู่ จึงจำเป็นต้องอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ ประมาณ 100 กว่าท่อน จุดที่สองพื้นที่อำเภอร้องกวาง ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีการขนย้ายไม้ซึ่งคาดว่าจะเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย ออกจากโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่งเอามาซุกซ่อนไว้จำนวน 2 จุด จึงได้เข้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นไม้ยางนา และไม้กระบาก จากการตรวจสอบขั้นต้น พบว่าจำนวนไม้และหลักฐานที่นำมาแสดง กับไม้ที่มีอยู่ไม่สอดคล้องกัน ต้องดำเนินตามกฎหมายต่อไป ที่จุดนี้เป็นไม้ยางนาจากสวนป่าพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อรอขออนุญาตแปรรูปไม้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร ระหว่างการตรวจสอบนั้นพบไม้ประดู่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งขอดูเอกสาร หากมีที่มา จากที่ดินเอกสารสิทธิ ตรงกันเราจะคืนให้ หากไม่ตรงหรือไม่มีหลักฐานนำมาแสดงเราต้องตรวจยึดและดำเนินคดี สำหรับในพื้นที่นั้นทราบมาว่ามีการแจ้งข่าวในพื้นที่แล้ว และมีการขนย้ายไม้ออก ซึ่งเราพบว่ามีการย้ายออกจริง ๆ ไม้ที่ย้ายมานั้น ถ้าตรวจสอบไม่สอดคลองกันต้องดำเนินคดี