Biz news

Captain Colors Run #3‘งานวิ่ง’ที่ผู้ชนะ ไม่ได้เป็นผู้รับเหรียญ



กรุงเทพฯ-แต่ละคนอาจมีเหตุผลที่ทำให้อยากจะวิ่งในทุกๆ วัน บางคนวิ่งเพื่อลดน้ำหนักและการมีสุขภาพที่ดี หรือต้องการเอาชนะตัวเองให้การวิ่งเป็นกระดุมเม็ดแรกของความสำเร็จ วิ่งเพื่อเงินรางวัล ของที่ระลึกหรือวิ่งเพื่อได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ

แม้การ “วิ่ง” จะเป็นกิจกรรมที่เรียบง่ายที่สุดแต่ทุกการออกวิ่งล้วนมีเหตุผลและเป้าหมายที่แตกต่างกัน กล่าวกันว่าการวิ่งไม่จำเป็นว่าเราจะต้อง ‘เร็ว’ ที่สุดเสมอไปเพราะระหว่างทางของการวิ่งล้วนมีคุณค่าให้เก็บเกี่ยวและทันทีที่คุณออกวิ่งและทำอย่างต่อเนื่องนั่นหมายความว่าการวิ่งได้เปลี่ยนชีวิตคุณไปแล้วการวิ่งจึงไม่ใช่แค่เพียงขยับร่างกายไปข้างหน้าหากแต่ยังแฝงกระบวนการของการพัฒนาตัวเองไปพร้อมๆกันและในแต่ละปีเรามักเห็นกิจกรรมการวิ่งหรือที่เรียกว่า “งานวิ่ง”จัดขึ้นจำนวนไม่น้อย และหนึ่งในงานวิ่งที่น่าสนใจในปีนี้คือ Captain Colors Run ซึ่งเป็นการวิ่งการกุศลเก็บระยะ เพื่อมอบอุปกรณ์กีฬาและสีทาอาคารแก่โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ขาดแคลน ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 3

ในตลาดสีทาบ้าน หลายคนคงคุ้นหูกับชื่อ “สีกัปตัน” ซึ่งมีอายุแบรนด์กว่า 40ปี และกิจกรรม Captain Colors Run คืออีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคม ในนามบริษัทกัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัด สิ่งที่ Captain Colors Runแตกต่างจากกิจกรรมเพื่อสังคมทั่วไป นั่นคือ การที่พวกเขาไม่ได้ชักชวนออกมาวิ่ง
หรือนำสิ่งของไปให้กับผู้ที่ขาดแคลนธรรมดาๆ แต่ลูกเล่นที่ถูกใช้เพื่อ Runโปรเจคนี้คือการให้ใครก็ได้มาร่วมวิ่งเพื่อมอบคะแนนให้กับโรงเรียนที่สมควรจะได้รับของรางวัลมากที่สุด

วรพจน์ สุภิมารส กรรมการผู้จัดการบริษัท กัปตัน โค๊ทติ้ง จำกัดและหนึ่งในผู้คิดค้นโปรเจค Captain Colors Run เล่าว่า ก่อนจะมาเป็น กัปตันคัลเลอร์ รัน (Captain Colors Run)พวกเขาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะมอบสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับผู้ที่ขาดแคลนมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างการมีส่วนร่วมให้กับตัวแทน ชุมชนและสังคมในระดับภูมิภาค ซึ่งสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์กัปตัน

“ส่วนตัวผมก็เติบโตมาจากการเรียนโรงเรียนรัฐบาลและคุ้นเคยกับการเห็นโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์กีฬา เห็นการรอคอยโอกาสเมื่อเรามาอยู่ในองค์กรที่มีศักยภาพจะช่วยได้และเรากำลังมองหากิจกรรมที่เหมาะสมอยู่ เราจึงมีไอเดียอยู่ที่ “การวิ่ง”

เพราะเป็นกีฬาที่ใครๆก็สามารถร่วมได้ และกีฬานี่แหละที่จะเป็นตัวสร้างคนทั้งคนที่มาร่วมวิ่งเองที่จะได้พัฒนาศักยภาพและโรงเรียนที่จะต่อยอดในการใช้กีฬาในการสร้างบุคลากรของประเทศชาติที่ร่างกายแข็งแรง สมองแจ่มใส”

การวิ่งของ Captain Colors Runจะแตกต่างจากการวิ่งแบบปกติที่ผู้ชนะมักเป็นผู้ที่แข็งแรงและมีความพร้อมมากที่สุด แต่ Captain Colors Run จะเป็นการวิ่งแบบ Virtual Runหรือการวิ่งแบบเสมือน ซึ่งนั้นหมายความว่าเราสามารถวิ่งตอนไหนก็ได้วิ่งเท่าไรก็ได้ โดยไม่มีระยะวิ่งที่ต้องสะสม
และบางทีผู้ชนะอาจไม่ใช่เป็นผู้ที่แข็งแรงที่สุด หากแต่เชื่อมโยงกับผู้คนมากที่สุดโดยกติกาของ Captain Colors Run ประกอบไปด้วย

1. ลงทะเบียนออนไลน์ฟรี ผ่าน Line Official @captaincolorsrunและกรอกข้อมูลส่วนตัว ระบุอำเภอที่ต้องการมอบอุปกรณ์กีฬาหรือสีทาอาคาร
2. เริ่มวิ่งเก็บระยะวิ่ง 1 กิโลเมตร เท่ากับ 1 คะแนน
3. เก็บผลวิ่ง จาก Application ติดตามการวิ่ง ในโทรศัพท์มือถือ หรือWristband/Smart watch ดังนี้ Nike Run Club, Map My Run by UnderArmour, Adidas Running App Runtastic, Samsung Health, GarminConnect™ App, Strava, Huawei Health, Mi Fit และ Activity‬‬‬‬‬
4. ส่งผลวิ่ง ผ่าน Line Official @captaincolorsrun เข้าเมนู “ส่งผลวิ่ง”เพื่อนำผลไปประมวลหาผู้ชนะ

วรพจน์ กล่าวถึงที่มาของไอเดียนี้ ว่าการเปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาวิ่งถือเป็นการสร้างให้คนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดทั้งยังเป็นการแฝงถึงปรัชญาของการพัฒนาตัวเองและการช่วยเหลือผู้อื่นไปพร้อมๆกัน เพราะแม้จะวิ่งได้มากที่สุด ไกลที่สุด แข็งแรงที่สุด แต่ผู้ที่ได้รับรางวัลจะเป็นอำเภอหรือโรงเรียนที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันมีความเห็นร่วมกันว่าสมควรจะได้รับรางวัลมากที่สุด เชื่อมโยงกับผู้วิ่งมากที่สุด

“ลองคิดดูว่าถ้าเราอยากจะมอบอุปกรณ์กีฬา มอบของรางวัลให้กับใครเราก็อยากจะให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนที่สุด ซึ่งการจะหาผู้เหมาะสมตรงนี้ไม่มีใครรู้ดีกว่าคนในชุมชนแน่ๆ เพราะผู้ที่จะเลือกว่าจะให้ใครคือนักวิ่งที่อยู่ในการแข่งขันเอง อย่างในการจัดงานเมื่อครั้งที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา
ในลิสต์ผู้ชนะมีโรงเรียนที่อยู่ในถิ่นที่ทุรกันดาร เดินทางลำบากต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจตระเวนชายแดน และนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไปซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่าโรงเรียนเหล่านี้มีที่ใดอีกบ้างแต่เรื่องนี้คนในชุมชนรู้ดีกว่าใคร เพราะตอนที่เขาเริ่มวิ่ง เขาจะเลือกอำเภอหรือเลือกโรงเรียนก่อนแล้วช่วยกันร่วมแรงร่วมใจพาโรงเรียนหรืออำเภอนั้นไปถึงเส้นชัย”

ตัวแทนของกัปตัน ยังสะท้อนถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า “การจัดงานใน 1-2ครั้งที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลามอบรางวัล เราใช้เวลาเดินทางไปโรงเรียนมากกว่า 4-6ชั่วโมง บางพื้นที่การเดินทางไม่สะดวกนัก ในช่วงหน้าฝนถนนหนทางจะเละเทะมาก หรือที่ภาคใต้เราไปพบกับโรงเรียนหนึ่งที่มีนักเรียนถึง80 คน โดยทั้งโรงเรียนมีครู 3 ท่าน นี่คือตัวอย่างของช่องว่างทางสังคมเราทุกคนรู้ว่าโรงเรียนแบบนี้มีจริงๆ ในประเทศไทยและจากประสบการณ์เรารู้เลยว่ากิจกรรมที่เราทำให้ชุมชนมีส่วนร่วมเช่นนี้มันถูกต้องแล้ว”

ในเชิงการตลาด สีกัปตันคือแบรนด์ที่มีความผูกพันกับชุมชนมานานเนื่องจากช่องทางการขายส่วนใหญ่จะเน้นระบบตัวแทนในภูมิภาคซึ่งเติบโตจากการพัฒนาเมืองมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

“เรามีฐานลูกค้าอยู่ทุกส่วนก็จริง ลูกค้าในกรุงเทพ-ปริมณฑล กับภูมิภาคสัดส่วนไม่ต่างกัน แต่ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ในภูมิภาคมีผลบวกกับเรามากเขาทำให้สีกัปตันเป็นที่รู้จักในชุมชน และยังสร้างการมี Loyalty (ความภักดี)กับแบรนด์ค่อนข้างสูง” กรรมการผู้จัดการบริษัท กัปตันฯ กล่าวถึงคีย์หลักที่สีกัปตัน ครองตลาดภูมิภาคและชุมชน

ท่ามกลางแคมเปญเพื่อสังคมและกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ Captain ColorsRun เป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับกลุ่มตัวแทนในพื้นที่มากที่สุดเพราะเมื่อกิจกรรมถูกตั้งด้วยไอเดียของการแบ่งปันอย่างทั่วถึงตัวแทนจัดจำหน่ายสีกัปตัน จะมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในชุมชนของตัวเอง

ขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศความเป็น “ทีม”ซึ่งต้องทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อพาอำเภอหรือโรงเรียนที่ตัวเองผูกพันมีรายชื่อในฐานะ“ผู้ชนะ”

“เราเชื่อว่า ทุกคนมีจังหวัด มีอำเภอที่เราผูกพัน มีความสัมพันธ์กับบ้านเกิดกิจกรรมนี้ทำให้เขาได้ไปรวมตัวกัน พูดถึงเรื่องเดียวกันถ้าทุกคนวิ่งให้กับอำเภอได้ วิ่งให้เด็กที่เขาอยากช่วยได้เราเชื่อว่าทุกคนอยากจะวิ่งนี่จึงเป็นกติกาที่เราต้องเริ่มต้นว่าต้องเลือกว่าจะวิ่งเพื่ออำเภอไหน
วันที่ส่งมอบรางวัลให้กับโรงเรียน วันนั้นไม่ใช่แค่อุปกรณ์กีฬา หรือสีกัปตันเท่านั้นแต่ชาวบ้าน นักธุรกิจในพื้นที่ และตัวแทนจำหน่ายจะเข้ามามีส่วนร่วมได้ทุกฝ่ายร่วมกันบริจาคเพื่อชุมชนที่เขาเลือก ผมเองก็เช่นกันตอนที่มอบรางวัลให้กับผู้ชนะใน 1-2 ปีแรกก็นึกถึงวันที่ตัวเองเป็นเด็กต่างจังหวัดและมีผู้มอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนซึ่งอุปกรณ์ที่จะได้ใน Captain Colors Run นี้ จะเป็นลูกฟุตบอล วอลเลย์บอลฟุตซอล แบตมินตัน ฯลฯ โดยมีคีย์หลักที่จะเป็นกีฬาซึ่งเล่นเป็นทีมใครๆก็สามารถร่วมเล่นได้ ไม่จำกัดเพศและวัย” ตัวแทนของกัปตันเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา

ถึงตรงนี้ก็ชัดเจนว่า Captain Colors Run คืองานวิ่งที่ผู้ชนะไม่ได้เป็นผู้รับรางวัลเองหากแต่เป็นการมอบโอกาสและส่งต่อเพื่อให้โรงเรียนที่มีความพร้อมน้อยกว่า และCaptain Colors Run ครั้งที่ 3 ที่จะมีขึ้นนี้ คือการต่อยอดจากการแข่งขันครั้งที่ 1และ 2 ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ (ขาดในช่วงปี 2564จากสถานการณ์โควิด-19)

ทั้งนี้ในปี 2565 สีกัปตันจะมอบอุปกรณ์กีฬาและมอบสีทาอาคารให้แก่โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ขาดแคลนทั่วประเทศ 300 อำเภอ 300โรงเรียน รวมมูลค่า 2,500,000 บาท โดยเกณฑ์การคัดเลือกโรงเรียน มีดังนี้1. โรงเรียนที่ได้รับมอบอุปกรณ์กีฬา 100 อำเภอ 100 โรงเรียน โรงเรียนละ
10,000 บาท รวมมูลค่า 1,000,000 บาท คัดเลือกจากอำเภอที่มีผลคะแนนวิ่งรวมติดอันดับ 1-100 และพิจารณาโรงเรียนในอำเภอที่ติดอันดับ อำเภอละ 1 โรงเรียน 2. โรงเรียนที่ได้รับมอบสีทาอาคาร หรือ อุปกรณ์กีฬา 200 อำเภอ 200 โรงเรียนแบ่งเป็น สีทาอาคาร 100 โรงเรียน รวมมูลค่า 1,000,000 บาท และอุปกรณ์กีฬา100 โรงเรียน โรงเรียนละ 5,000 บาท รวมมูลค่า 500,000 บาทคัดเลือกจากอำเภอที่มีผลคะแนนวิ่งรวม ติดอันดับ 101-300และพิจารณาโรงเรียนในอำเภอที่ติดอันดับ อำเภอละ 1 โรงเรียนโดยให้สิทธิ์โรงเรียนจากอันดับที่ 101 เป็นต้นไป เลือกรับสีทาอาคาร หรืออุปกรณ์กีฬา เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ขอสงวนสิทธิ์การเลือกรับสีทาอาคารหรือ อุปกรณ์กีฬา เมื่อมีการเลือกรับครบตามจำนวนแล้ว

“โจทย์ในวันนี้คือเราจะทำอย่างไรให้งานวิ่งใหญ่ขึ้นมีคนอยากเข้ามาร่วมมากขึ้นและทำให้ผู้ที่ไม่เคยวิ่งจะลุกขึ้นมาวิ่งเพื่อใครสักคนหนึ่ง ขอให้คุณได้วิ่งเถอะส่วนที่เหลืออะไรที่ช่วยสังคมได้ กัปตันจะสานต่อภารกิจนั้นเอง” ทีมงานกัปตันCaptain Colors Run กล่าวทิ้งท้าย