EDU Research & ESG

ม.ศรีปทุมบางเขนรับปริญญาบัตรทุกระดับ ปีการศึกษา2563จำนวน3,196คน



กรุงเทพฯ-มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน จัดพิธีประสาทปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ประจำปีการศึกษา 2563 และภาคการศึกษาที่ 1/2564 รุ่นที่ 50 จำนวน  3,196 คน (แบบ New Normal)

รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต และนายกสภามหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นประธานในพิธีประสาทปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี ปริญญา,โท และปริญญาเอก มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน ประจำปีการศึกษา 2563 และภาคการศึกษาที่ 1/2564 โดยมี ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวรายงานกิจการของมหาวิทยาลัย ณ ห้องบัวหลวงแกรนด์รูม อาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน) ระหว่างวันที่  19 – 21 พฤษภาคม 2565

โดยภายในพิธีฯ รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต และนายกสภามหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้ให้โอวาท ข้อคิดและข้อปฎิบัติ แก่บัณฑิตใหม่ มหาวิทยาลัยศรีปทุมในพิธีประสาทปริญญาฯ ความว่า  ขอแสดงความยินดีต่อ ดุษฎีบัณฑิต, มหาบัณฑิต และ บัณฑิต ทุกคนที่เข้ารับปริญญาบัตรในครั้งนี้. 

สำหรับบัณฑิตชาวไทยทุกคนที่จบการศึกษาในประเทศนั้น  วันรับปริญญาเป็นวันแห่งความทรงจำวันหนึ่งของชีวิต.  นั่นคือ เป็นวันที่ญาติมิตรที่มีอายุมากกว่ามาแสดงความยินดีมุทิตาจิตต่อบัณฑิต ส่วนญาติมิตรที่มีอายุน้อยกว่าก็ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของรุ่นพี่ๆ และ เกิดความบันดาลใจที่อยากจะประสบความสำเร็จในด้านการศึกษาบ้าง.   น่าเสียดายที่  ในปีนี้ครอบครัวของบัณฑิตไม่สามารถจะมาร่วมแสดงความยินดีในมหาวิทยาลัยได้เพราะการเกิดวิกฤติการณ์โควิด-19.   แต่ ผมเชื่อว่า บัณฑิตทุกคนคงจะต้องหาโอกาสร่วมฉลองความสำเร็จนี้กับครอบครัวอยู่แล้วเพื่อจะได้ถ่ายภาพวันสำคัญนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก.   ผมเชื่อว่าในอนาคตบัณฑิตแทบทุกคนคงจะมีเวลาเปิดสมุดภาพถ่ายวันรับปริญญาของตัวเองแล้วนั่งย้อนคิดว่า   เราเดินมาถึงวันนั้นได้อย่างไร, ได้เห็นภาพพ่อแม่  ญาติพี่น้อง  ดีใจกับเรามากแค่ไหน.  แต่ที่สำคัญก็คือเรารู้สึกภาคภูมิใจมากแค่ไหนในความพยายามจนประสบความสำเร็จ.

ยุคสมัยนี้  หลายสิ่งเปลี่ยนไป  คนจำนวนมากมีความคิดว่าการศึกษาระดับปริญญาไม่จำเป็นเสียแล้ว.  พวกเขาคิดว่าต่อไปการเรียนเนื้อหาจากเว็บเพียงไม่กี่วันก็เพียงพอทำงานแล้ว  ไม่ต้องเสียเวลาเรียนหลายปี.  อย่างไรก็ตาม  มีคำถามเช่น เราจะกล้าสร้างอาคารตามพิมพ์เขียวที่ออกแบบโดยคนที่ไม่ได้จบปริญญาด้านวิศวกรรมโครงสร้างหรือไม่,  เราจะกล้าเชื่อถือข้อเขียนของคนที่อ้างว่ารู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บจากเว็บแล้วซื้อยามากินตามเขาบอกโดยไม่รู้ว่าเขาได้ปริญญาแพทย์ศาสตร์หรือไม่.  หลักสูตรที่ผู้ที่จะประกอบอาชีพที่ผู้คนเชื่อถือได้นั้นต้องเป็นระดับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย คือ หลักสูตรวิชาชีพ และ หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับคนและพฤติกรรมของคน.  ท่านทั้งหลายในที่นี้จึงได้เปรียบดีกว่าผู้ทำงานที่เพียงเรียนรู้จากเว็บโดยไม่ได้จบหลักสูตรปริญญามาก่อนอย่างแน่นอน.   อย่างไรก็ตาม  ท่านจะต้องไม่ภูมิใจเพียงแค่ได้ปริญญาแล้ว เพราะอันที่จริงเนื้อหาที่ท่านเพิ่งสอบผ่านนั้น เกือบทั้งหมดได้ล้าสมัยไปแล้ว.  ท่านจะภูมิใจว่าท่านทำงานได้ดีมีผลงานที่น่าเชื่อถือได้ก็ต่อเมื่อท่านยังศึกษาติดตามความก้าวหน้าในสาขาวิชาที่ท่านเรียนมาต่อไปอีกเป็นประจำ.ผมขอแนะนำให้บัณฑิตทุกคนพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพของท่านเองโดยวิธีง่ายๆ ดังนี้

1.รวบรวมคำศัพท์ต่างๆ โดยเฉพาะคำศัพท์ใหม่ในสาขาวิชาที่ท่านเรียนและวิชาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากนั้นจึงศึกษาความหมายของศัพท์เหล่านั้นให้เข้าใจ.

2.รวบรวมลิ้งที่เชื่อมโยงไปยังเว็บสำคัญๆทางวิชาการที่นำเสนอความก้าวหน้าในสาขาวิชานั้น.

3.รวบรวมตัวอย่างผลงานสำคัญๆในสาขาวิชานั้นจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก.

4.รวบรวมปัญหา, สาเหตุ และวิธีการแก้ปัญหาที่เคยเกิดในสาขาวิชานั้น.

5.รวบรวมทิศทางการขยายตัวและความก้าวหน้าในสาขาวิชานั้น.

อย่างไรก็ตาม  ผู้ที่มีความรู้อย่างดีในประกอบอาชีพและวิชาชีพไม่ว่าสาขาใด  ก็อาจจะประสบอุปสรรคสำคัญในงานของตนเองได้  หากไม่ศึกษาเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือการเรียนรู้วิธีสื่อสารสนทนารูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์.ทุกเรื่องที่ผมกล่าวถึงนั้น  บัณฑิตทุกท่านควรรวบรวมเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลส่วนตัวของตนเอง. เมื่อรวบรวมไว้แล้วก็หมั่นศึกษาทบทวนและนำเนื้อหาไปใช้.  โดยวิธีนี้  ท่านจะเป็นคนที่ยืนอยู่แถวหน้าในอาชีพหรือวิชาชีพของตนเองตลอดเวลา.

ท้ายที่สุดนี้   ผมขออำนวยพรให้บัณฑิตทุกท่านประสบความสำเร็จก้าวหน้าในการงานอาชีพหรือการศึกษาต่อ.  ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลบันดาลให้บัณฑิตทุกท่านและครอบครัวมีความสุขกายสุขใจ  มีสุขภาพพลานามัยแข้มแข็ง ปราศจากภัยจากโควิด-19 หรือโรคร้ายอื่นๆ รบกวน.