In Bangkok
แจงเงื่อนไขการได้รับสิทธิในค่าเช่าบ้าน ของข้าราชการครูสังกัดกทม.

กรุงเทพฯ-สำนักการศึกษากทม.ออกโรงแจงเงื่อนไขการได้รับสิทธิค่าเช่าบ้านข้าราชการครูสังกัด กทม.
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. กล่าวกรณีมีข้อเสนอแนะให้ช่วยดูแลเรื่องบ้านพักและค่าเช่าบ้านของข้าราชการครูสังกัด กทม. ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด และมารับราชการในกรุงเทพฯ ให้มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านว่า จากพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ค่าเช่าบ้านราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ มีเนื้อหาไม่ครอบคลุมถึงข้าราชการครูสังกัด กทม.ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ซึ่งการแก้ไข พ.ร.ฎ.ค่าเช่าบ้านเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ซึ่งสำนักการศึกษา เห็นว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือหากต้องการให้เงื่อนไขการได้รับสิทธิค่าเช่าบ้านสอดรับกับข้อเท็จจริงในเรื่องภูมิลำเนาของข้าราชการครู กทม.อาจตรากฎหมายว่าด้วยค่าเช่าบ้าน เพื่อให้ข้าราชการ กทม.ได้รับสิทธิและประโยชน์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กทม.ได้จัดให้มีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่น เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาค่าครองชีพสูงแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม.ที่นอกเหนือจากสิทธิได้รับค่าเช่าบ้าน คือ การให้สิทธิเข้าพักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยแก่ข้าราชการและลูกจ้างในโรงเรียนสังกัด กทม.ซึ่งผู้ที่จะมีสิทธิเข้าพักอาศัยได้ ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 ของระเบียบ กทม.ว่าด้วยการพักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยข้าราชการและลูกจ้างในโรงเรียนสังกัด กทม. พ.ศ.๒๕๖๕ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กทม.ยังได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับธนาคารหลายแห่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นต้น เพื่อให้ข้าราชการ กทม.สามัญและข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กทม.ได้รับสิทธิพิเศษในการกู้ซื้อบ้านในราคาดอกเบี้ยต่ำอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิจะได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.ฎ.ค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๗ คือ เป็นข้าราชการ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยอันเนื่องมาจากทางราชการ มีคำสั่งให้เดินทางไปปฏิบัติราชการเป็นการประจำในต่างท้องที่รวมถึงข้าราชการผู้ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานในต่างท้องที่ที่เป็นท้องที่ที่เริ่มรับราชการครั้งแรก หรือท้องที่ที่กลับเข้ารับราชการใหม่ด้วย โดยมีข้อยกเว้นที่ทำให้ไม่มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการ กรณี (1) ทางราชการได้จัดที่พักให้ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวง การคลังกำหนด (2) มีเคหสถานอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง หรือคู่สมรสในท้องที่ที่ไปประจำสำนักงานใหม่ โดยไม่มีหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงิน (3) ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปประจำสำนักงานใหม่ในต่างท้องที่ตามคำร้องขอของตนเอง นอกจากนี้ กรณีข้าราชการที่มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านได้เช่าซื้อ หรือผ่อนชำระเงินกู้ เพื่อชำระราคาบ้านในท้องที่ที่ไปประจำสำนักงานใหม่ เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและได้อาศัยอยู่จริงในบ้านนั้น ให้ข้าราชการมีสิทธินำหลักฐานการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ หรือผ่อนชำระเงินกู้มาเบิกค่าเช่าบ้านจากทางราชการได้ไม่เกินจำนวนที่กำหนด ตามบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านข้าราชการท้าย พ.ร.ฎ.
อย่างไรก็ตาม ด้วยพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ถูกจัดแบ่งเป็นเขตและแขวง แต่คำนิยามใน พ.ร.ฎ.ค่าเช่าบ้านราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๔ “ท้องที่” หมายความว่า กรุงเทพมหานคร อำเภอ กิ่งอำเภอ หรือท้องที่ของอำเภอ หรือกิ่งอำเภอที่กระทรวงการคลังประกาศกำหนดให้เป็นท้องที่เดียวกันตามมาตรา ๕ และ มาตรา ๕ กำหนดว่า ให้กระทรวงการคลัง มีอำนาจประกาศกำหนดให้อำเภอ หรือกิ่งอำเภอ หลายท้องที่รวมกันเป็นท้องที่เดียวกันได้ ซึ่งเมื่อเทียบเคียงตามนัยแห่งคำนิยามข้างต้น จะทำให้ “อำเภอ” มีความหมายเหมือนกับเขต ส่วนการตีความคำว่า “ท้องที่” ตามนัยมาตรา ๕ จึงตีความได้ว่า เขตต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมกันทั้งหมดทุกเขตเป็นท้องที่เดียวกัน ดังนั้น หากมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดได้รับคำสั่งให้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่เขตอื่นที่มิใช่เขตที่ตนได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นครั้งแรกก็ยังคงไม่มีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านเช่นกัน