H&B News

'แอสตร้าเซนเนก้า'ยอมรับความแตกต่าง ชูแนวคิด Inclusion & Diversity 



กรุงเทพฯ – บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) ผ่านการตอกย้ำความเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่นผลักดันนโยบายด้านความหลากหลายและเท่าเทียม ร่วมเดินหน้าแนวทางการขับเคลื่อนองค์กรให้มีความเสมอภาคทางเพศ พร้อมตอกย้ำการเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม (Great Place to Work) ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการประกาศนโยบายสนับสนุนสิทธิการลาของบิดาเพื่อเลี้ยงดูบุตรแรกเกิด (Paternity leave) เป็นระยะเวลา 30 วันโดยได้รับค่าจ้าง พร้อมเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

การยอมรับในความแตกต่างและการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Inclusion & Diversity) ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานสู่ความสำเร็จของแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากเราเชื่อว่าพนักงานจะทำงานได้อย่างมีความสุขและสามารถดึงศักยภาพของตนมาใช้ในการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์ หากได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองและได้รับการยอมรับ

ในด้านการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในองค์กร การสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แอสตร้าเซนเนก้าให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเราได้รับฟังและเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างของพนักงานทุกระดับ พร้อมมีการปรับรูปแบบการเลือกเพศสภาพสำหรับการระบุตัวตนของพนักงานในโปรไฟล์ ให้มีความหลากหลาย ได้แก่ ชาย หญิง นอน-ไบนารี (non-binary) และ ไม่ระบุเพศ รวมถึงการก่อตั้งกลุ่ม AZPride ซึ่งเป็นเครือข่ายของพนักงานจากทั่วโลก เพื่อส่งเสริมและสนันสนุนให้กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้มีส่วนร่วมและแสดงศักยภาพสูงสุดในด้านการทำงานของตนเอง

แอสตร้าเซนเนก้ายังได้รับการยืนยันถึงผลงานอันโดดเด่น ในด้านการสนับสนุนพนักงานผู้หญิงในอุตสาหกรรม โดยในปีที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้าเป็น 1 ใน 325 บริษัทชั้นนำระดับโลกที่ได้สนับสนุนให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ จากรายงาน LP Gender-Equality Index 2021 ของสำนักข่าว Bloomberg ผ่านการผลักดันให้จำนวนอัตราส่วนและการเลื่อนตำแหน่งของพนักงานผู้หญิงทัดเทียมกับพนักงานผู้ชาย พร้อมกับติดอันดับ The Financial Times Stock Exchange 100 ที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี พ.ศ. 2568 สัดส่วนของผู้บริหารชายและหญิงตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปจะต้องมีจำนวนที่เท่าเทียมกัน ซึ่งในปัจจุบันบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด มีพนักงานหญิงกว่า 71.6% และสมาชิกกว่า 50% ของทีมบริหารเป็นผู้หญิง

นอกจากนี้ จากการยึดมั่นในแนวคิดดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย จึงได้ร่วมกับร่วมกับ องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล จัดทำโครงการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีในเด็กและเยาวชน หรือ Young Health Programme (YHP) ประเทศไทย เพื่อร่วมสนับสนุนวันเด็กหญิงสากล (International Day of the Girl) ผ่านกิจกรรม #GirlsTakeOver ที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #GirlsBelongHere แคมเปญระดับสากลที่ดำเนินการพร้อมกันในหลายประเทศ  เพื่อร่วมรณรงค์และขับเคลื่อนการยอมรับความแตกต่างในสังคมและสร้างความตระหนักและการรับมือเกี่ยวกับความท้าทายและการเลือกปฏิบัติที่ผู้หญิงจะต้องประสบในอุตสาหกรรมการทำงานแวดวงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการพัฒนาอีกด้วย

ล่าสุดในปีนี้ กับการเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรให้มีความเสมอภาคทางเพศ แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ได้ร่วมลงนาม “คำมั่นว่าจะให้พนักงานผู้เป็นพ่อได้วันลาเลี้ยงดูบุตร ปี 2565” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทย Business Sweden และหอการค้าไทย-สวีเดน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสวีเดนกว่า 12 บริษัท1 อย่าง IKEA, Volvo, ABB, Electrolux, AstraZeneca, Foreo, Rapid Asia, Fitness24Seven, Capaciton, Wallander & Sson, Global Bugs และ Atlas Copco เพื่อสนับสนุนสิทธิการลาของบิดาให้ได้วันลาเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดโดยได้รับค่าจ้างเป็นเวลา 30 วัน และมุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของความร่วมมือในการสนับสนุนสังคมแห่งความเท่าเทียม พร้อมตอกย้ำจุดยืนในการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ให้บุคลากรสามารถบริหารทั้งหน้าที่การงานและบทบาทในครอบครัวได้อย่างเต็มที่

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย ยินดีและมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ เพื่อสนับสนุนสิทธิการลาของบิดาให้ได้วันลาเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดโดยได้รับค่าจ้างเป็นเวลา 30 วัน เราหวังว่านโยบายนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวและให้พ่อแม่ได้ช่วยกันเตรียมความพร้อมในการดูแลบุตร นโยบายของบริษัทฯ มุ่งส่งเสริมการสร้างโอกาสที่เสมอภาคทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยสอดคล้องกับค่านิยมของแอสตร้าเซนเนก้าที่ต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้อง (Do The Right Thing) และการเห็นคุณค่าและยอมรับในความแตกต่าง เพื่อให้แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม (Great Place to Work) ต่อไป”

การเห็นความสำคัญ พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมความหลายหลายและการยอมรับความแตกต่างของแต่ละบุคคลภายในองค์กร เป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งยอมรับความเสมอภาคและความแตกต่างของแต่ละบุคคล ก่อให้เกิดพลังบวกในการทำงานร่วมกัน และด้วยการเปิดกว้างและอิสระทางความคิดจะนำไปสู่การพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แอสตร้าเซนเนก้า ได้วางเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่คนในองค์กรจะรู้สึกปลอดภัยและมีพลังใจในการทำงาน โดยทุกคนคือส่วนสำคัญในความสำเร็จขององค์กร แม้ว่ามีพื้นฐานทางสังคม วัฒนธรรม และเพศที่ต่างไป เพราะความหลากหลายทางความคิดคือจุดเริ่มต้นของความคิดริเริ่มต่างๆ ที่ทำให้คนในองค์กรสามารถเติบโตและเรียนรู้ไปด้วยกัน