In News

เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวสะสมในครึ่งปีแรก กว่า2.2ล.คน-ไทยเที่ยวไทย67.8ล.คน/ครั้ง



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ พอใจตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทย สะสมครึ่งปีแรกกว่า 2.2 ล้านคน ขณะที่ ไทยเที่ยวไทย สะสม 67.8 ล้าน​ คน-ครั้ง ดันรายได้รวมจากการท่องเที่ยวของไทยพุ่งถึง 4.3 แสนล้านบาท

วันนี้ (10 กรกฎาคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าไทยต่อเนื่อง ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ก.ค. 2565) มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 30,947 คน โดยพบเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ อินเดีย สิงคโปร์ เวียดนาม และออสเตรเลีย ตามลำดับ ทั้งนี้ ตั้งวันที่ 1 ม.ค. - 6 ก.ค. 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยสะสมถึง 2,214,132 คน คิดเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวสะสม 1.25 แสนล้านบาท โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากอินเดียมากที่สุด 249,466 คน รองลงมาคือ มาเลเซีย 277,146 คน สิงคโปร์ 137,739 คน สหราชอาณาจักร 128,369 คน และสหรัฐอเมริกา 112,791 คน ตามลำดับ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในเดือน พ.ค. - มิ.ย. 65 พุ่งสูงขึ้นมากหลังจากที่ยกเลิกระบบ Test & Go จาก 542,410 คนในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 709,967 คนในเดือน มิ.ย. และล่าสุดเดือน ก.ค. ซึ่งยกเลิก Thailand Pass ก็ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 6 วันแรกถึง 191,712 คนแล้ว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 ก.ค. 2565 พบว่า "เที่ยวไทยเที่ยวไทย" สะสมแล้ว 67.8 ล้าน​ คน-ครั้ง มีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยสะสมถึง 3.05 แสนล้านบาท โดยจังหวัดที่คนไทยสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ทั้งนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 ก.ค. 2565 ไทยเที่ยวไทย สร้างรายได้ 3.05 แสนล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 1.25 แสนล้านบาท 

“ครึ่งปีแรกประเทศไทยมีรายได้การท่องเที่ยวสูงถึง 4.3 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยที่จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี คือเดือน ต.ค. - ธ.ค. ถือเป็นช่วง High Season ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ล้านคน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่มีต่อระบบสาธารณสุขของไทย และมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการผ่อนคลายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วนในประเทศที่ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขของภาครัฐ ส่งผลให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก  โดยนายกรัฐมนตรีพอใจกับสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กลับมาสร้างรายได้เข้าประเทศอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเน้นย้ำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตนตามมาตรการด้านสาธารณสุขภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ เพื่อให้ทุกคนท่องเที่ยวอย่างสนุกและปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว