In News
เห็นชอบงบฯ5ล้านดอลลาร์และแผนปี66 ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย

ครม.เห็นชอบงบประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแผนการดำเนินงานประจำปี 2566 ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
กรุงเทพฯ-วันที่ 6 กันยายน 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบงบประมาณจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแผนการดำเนินงานประจำปี 2566 ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย โดยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย มีฐานะเป็นนิติบุคคล เกิดขึ้นจากบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและมาเลเซียเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วม เพื่อแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของทั้งสองประเทศในอ่าวไทย โดยเฉพาะปิโตรเลียมในพื้นที่ดินใต้ทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนล่างที่ไทยและมาเลเซียอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ซึ่งเรียกว่า พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(MTJDA) ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีผลใช้บังคับระหว่างกันเป็นเวลา 50 ปี นับตั้งแต่ได้มีการแลกเปลี่ยนสัตยาบันสาร เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2522
สำหรับงบประมาณปี 2566 ที่องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย เสนอขอครั้งนี้จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการจัดทำรายละเอียดคำขอขึ้นตามพื้นฐานกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กรร่วมฯ ในสถานการณ์ปกติ ซึ่งสูงกว่างบประมาณปี 2565 ที่ได้รับอนุมัติภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ร้อยละ 22 ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 4,836,100 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายที่เป็นทุน 163,900 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่มาของงบประมาณนั้น องค์กรร่วมฯ ได้เสนอขอใช้เงินที่ได้รับจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 จำนวน 4,271,916 ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2564 จำนวน 728,084 ดอลลาร์สหรัฐ และได้ประมาณการรายได้รวมขององค์กรร่วมฯในปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่จำนวน 667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยค่าภาคหลวง 181 ล้านดอลลาร์สหรัฐและปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรจำนวน 486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าใช้จ่ายบุคลากร ประกอบด้วย เงินเดือนพนักงาน ค่าเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคณะกรรมการองค์กรร่วมฯและเจ้าหน้าที่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50, ค่าเช่า เช่น พื้นที่สำนักงาน อุปกรณ์สำนักงาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 , ค่าบริการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5, ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.2 และค่าใช้จ่ายที่เป็นทุน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,539 ส่วนค่าใช้จ่ายที่ลดลง คือ ค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม เช่น ค่าบำรุงรักษาสำนักงาน ยานพาหนะ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสำนักงานลดลงร้อยละ 12
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า แผนการดำเนินงานขององค์กรร่วมฯในปี 2566 ที่สำคัญเช่น เจาะหลุมประเมินผลจำนวน 1 หลุมในแหล่ง Senja , เจาะหลุมปิโตรเลียมในแหล่ง Bumi Deep Phrase 1 and 2 จำนวน 7 หลุม,รักษาระดับอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติที่เรียกรับสูงสุด(CDC) ในอัตรา 869 ล้านลูกบาศก์ฟุต และประสานงานกับบริษัท ทรานส์ไทย –มาเลเซีย(TTM) เพื่อให้การผลิตก๊าซเป็นไปตามสัญญา เป็นต้น