In Bangkok
กทม.สอบรถบรรทุกชนรถสิบล้อกลางกรุง กำชับคนขับรถใช้ความเร็วตามที่กำหนด
กรุงเทพฯ-สำนักงานเขตพญาไท สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.เร่งตรวจสอบสาเหตุรถบรรทุกชนท้ายรถสิบล้อ-กำชับพนักงานขับรถใช้ความเร็วตามที่กำหนด
นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตพญาไท กทม.กล่าวกรณีเกิดอุบัติเหตุรถหกล้อเก็บขยะ กทม.ชนท้ายรถสิบล้อบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ย.65 เวลา 04.40 น. โดยนายวัฒนชัย จูงวงษ์ พนักงานทั่วไป ลูกจ้างประจำฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตพญาไท ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถสำรองเก็บขนมูลฝอย ได้ขับรถยกภาชนะ 8 ลูกบาศก์เมตร จากแฟลตตำรวจลือชา เพื่อนำขยะไปเทที่ศูนย์รวบรวมมูลฝอยรัชวิภา เขตจตุจักร หลังจากเทขยะเรียบร้อย ได้ขับรถกลับมาจอดที่โรงจอดรถซอยศาสนา เขตพญาไท ระหว่างทางบริเวณหน้าโชว์รูมอีซูซุ ตรีเพชร ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร เกิดเหตุชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งยางล้อหลังแตก โดยรถบรรทุกทรายเสียหายเล็กน้อย แต่รถบรรทุกของ กทม.ได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก สภาพหัวรถบรรทุกด้านซ้ายพังยุบ ส่วนพนักงานขับรถฯ มีอาการแผลแตกที่คิ้วด้านซ้าย แน่นหน้าอก แต่สามารถสื่อสารได้ปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเบื้องต้นได้ชี้แจงว่า หลังจากเทขยะเรียบร้อยได้ขับรถกลับศูนย์จอดรถขยะของเขตพญาไท บริเวณซอยศาสนา โดยขับมาในช่องจราจรด้านซ้ายของถนนวิภาวดีรังสิตด้วยความเร็ว 60 - 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไม่เห็นรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ล้อด้านหลังแตกและขับมาช้า ๆ ส่วนข้อเท็จจริงอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) วิภาวดีตรวจสอบจากกล้อง CCTV และสอบปากคำพนักงานขับรถรายดังกล่าวหลังออกจากโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ได้ประชุมชี้แจงพนักงานขับรถบรรทุกขยะ หรือรถบรรทุกอื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะเป็นประจำทุกเดือน โดยเน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และกรณีรถเก็บขนมูลฝอยที่เป็นรถเช่าจากเอกชน จะติดตั้ง GPS ซึ่งหากมีการแจ้งจากสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.พบการขับรถยนต์ด้วยความเร็วเกินเกณฑ์ที่กำหนด สำนักงานเขตฯ จะพิจารณาโทษทางวินัย แต่กรณีนี้เป็นรถบรรทุกของ กทม.ซึ่งไม่มีการติดตั้ง GPS จึงต้องพิสูจน์ต่อไปว่าพนักงานขับรถบรรทุกดังกล่าวขับรถด้วยความเร็วสูงจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวหรือไม่
นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้ประสานสำนักงานเขตพญาไทตรวจสอบสาเหตุและข้อเท็จจริงกรณีเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุจากการทำงาน จึงได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยในการขับขี่รถเก็บขนมูลฝอย ขณะเดียวกันได้มีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตให้กำกับ ควบคุม และตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถเก็บขนมูลฝอยให้ใช้ความเร็วของรถด้วยความระมัดระวังตามที่กฎหมายจราจรกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และกำชับให้ขับชิดซ้าย รวมถึงไม่พกพาสิ่งผิดกฎหมายติดตัว หรือมีครอบครองขณะปฏิบัติงานโดยเด็ดขาด นอกจากนั้น ยังได้ตรวจสอบพฤติกรรมการใช้รถเก็บขนมูลฝอยผ่านระบบ GPS หากพบว่ามีการใช้ความเร็วมากกว่ากฎหมายกำหนดจะมีหนังสือแจ้งผู้อำนวยการเขตและหน่วยงานนั้น ๆ ให้ว่ากล่าวตักเตือนพนักงานขับรถ หากพบการกระทำผิดซ้ำจะดำเนินการทางวินัยต่อไป