In News
ทล.สรุปสถานการณ์น้ำท่วมช่วง26ก.ย.นี้ สัญจรไม่ได้2จังหวัด/แนะเส้นทางเลี่ยง
กรุงเทพฯ-กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ผลกระทบจากพายุโนรู สถานการณ์ประจำวันที่ 26 กันยายน 2565 เวลา 15.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย ปทุมธานี นครสวรรค์ เลย นครราชสีมา ขอนแก่นมหาสารคาม ชัยภูมิ ระยอง สระบุรี ลพบุรี ปราจีนบุรี และ เชียงราย จำนวน 20 สายทาง 24 แห่ง ทางหลวงที่การจราจรผ่านได้ 22 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง รายละเอียด ดังนี้
1.จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางหลวงหมายเลข 2216 สายโคกมน - กกกะทอน พื้นที่ อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ช่วง กม. ที่ 85+650 สะพานห้วยน้ำย่า (สะพานชั่วคราว) ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำใช้ทางเลี่ยงสาย ทช.2012 บ้านตาดกลอย - บ้านหนองยาว
2.จังหวัดระยอง ทางหลวงหมายเลข 36 สายมาบข่า - ทับมา พื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ช่วง กม. ที่ 42+300 - 42+800 ด้านซ้ายทางและขวาทาง ระดับน้ำ 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แนะนำให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.3 สุขุมวิท เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
โดยแขวงทางหลวงในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ พร้อมเร่งระบายน้ำและบำรุงรักษาเส้นทาง โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยจากการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ทล. ได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ ทล. ได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh