In News

วธ.เลือกอัตลักษณ์ชุมชน5จว.เป็นโมเดล ต้นแบบบอกเล่าเรื่องราว(Story Telling)



กรุงเทพฯ-วธ.พร้อมนำอัตลักษณ์ชุมชนใน 5 จังหวัดแรก สมุทรปราการ ลำปาง ปัตตานี ระยอง สุรินทร์ บอกเล่าเรื่องราวหรือ Story Telling เป็นโมเดลต้นแบบ ยกระดับสินค้า บริการทางวัฒนธรรมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เส้นทางท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศ ผ่านแอปพลิเคชั่น เที่ยวเท่ๆเสน่ห์เมืองไทย กับ แอพลิเคชัน TAGTHAi 

นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนาสินค้าด้านท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ เครื่องมือ และส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ เพิ่มศักยภาพของชุมชนและผู้ประกอบการ ภายใต้แนวคิด “ทำน้อย ได้มาก” นั้น ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม พัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ นำเทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มอัตลักษณ์และมูลค่าของสินค้าและบริการ ในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาด ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติมากขึ้น ตามนโยบายของวธ. ในการปรับบทบาทกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ โดย “เปลี่ยนฉากทัศน์วัฒนธรรม สู่ก้าวที่มั่นคงและยั่งยืน” ใช้ทุนทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ในท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และคุณค่าทางสังคม

ปลัดวธ. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นทั้ง 3 หน่วยงานจะมุ่งดำเนินงานขับเคลื่อนด้วย Happy Model (โมเดลอารมณ์ดี มีความสุข) โดยจะเริ่มนำร่องใน 5 ภูมิภาค 5 จังหวัด ที่มีศักยภาพและความเข้มแข็งในชุมชน ผ่านการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมเป็นชุมชนคุณธรรม “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ของกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเป็นโมเดลตัวอย่างให้แก่จังหวัดอื่นๆดำเนินการไปพร้อมกันๆ ได้แก่ ภาคกลาง-จังหวัดสมุทรปราการ ภาคเหนือ-จังหวัดลำปาง ภาคใต้-จังหวัดปัตตานี ภาคตะวันออก-จังหวัดระยอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-จังหวัดสุรินทร์ โดยร่วมพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวชุมชนที่มีความพร้อมอยู่แล้วให้มีการเติบโตในตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการออกแบบแพ็คเก็จให้มีอัตลักษณ์ในแต่ละชุมชน จะจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวและจุดเชื่อมต่อในแต่ละชุมชนจากความร่วมมือและการสนับสนุนของเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชนในพื้นที่และเจ้าของพื้นที่ชุมชน มีการใช้แอพลิเคชัน TAGTHAi (ทักทาย) ต่อยอดและสร้างประโยชน์สูงสุดในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ปรับปรุงและพัฒนาการยกระดับเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะร่วมกันดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ รณรงค์อย่างสร้างสรรค์ จัดกิจกรรมด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรมทั่วประเทศต่อไป

“ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรมพร้อมที่จะร่วมสนับสนุนการนำอัตลักษณ์ชุมชนมาบอกเล่าเรื่องราวหรือ Story Telling รวมถึงพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานให้แก่สินค้าและการบริการทางวัฒนธรรม เพื่อบูรณาการข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่น เที่ยวเท่ๆเสน่ห์เมืองไทย กับ แอพลิเคชัน TAGTHAi  หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลิกโฉมประเทศไทย ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สังคมและประเทศเดินหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป” ปลัด วธ.กล่าว