In News

ไทยจับมือออสเตรเลียร่วมลงนามจัดตั้ง 'ศูนย์ความเป็นเลิศต่อต้านการค้ามนุษย์'



กรุงเทพฯ-ไทยจับมือออสเตรเลียลงนาม MOU จัดตั้ง “ศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์” ในไทย  โดยจะมีพิธีลงนามร่างบันทึกความเข้าใจในวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ว่า ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งเครือรัฐออสเตรเลียในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยจะมีพิธีลงนามร่างบันทึกความเข้าใจในวันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ณ ทำเนียบรัฐบาล

ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ 5 ปี จัดทำขึ้นเพื่อสร้างกรอบความร่วมมือระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ร่วมกันในการต่อต้านกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องผ่านศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ที่จัดตั้งขึ้นในไทย (คาดว่า จะจัดตั้ง ณ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)สนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนในการเสริมสร้างทักษะการป้องกัน การตรวจสอบ และการดำเนินคดีกับการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง 2)เสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย ความร่วมมือการสืบสวนข้ามชาติ และการแบ่งปันข่าวกรองเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง 3)ส่งเสริมการแบ่งปันความรู้และการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพในการต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างคู่ภาคีและภายในภูมิภาคอาเซียน

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ทั้งสองประเทศจะขับเคลื่อนความร่วมมือผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศฯ ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนระดับอาวุโสของภาคีแต่ละฝ่ายและผู้แทนอื่น ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยฝ่ายออสเตรเลีย จะให้การสนับสนุนด้านเลขานุการ พร้อมทั้งกำหนดให้มีการประชุมร่วมกันอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อการตัดสินใจ กำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ และการกำกับดูแลของศูนย์ความเป็นเลิศฯ  ส่วนการสนับสนุนของคู่ภาคีนั้น ฝ่ายไทยจะสนับสนุนด้านการปฏิบัติงานและงบประมาณสำหรับที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพของศูนย์ความเป็นเลิศฯ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากรมนุษย์และงบประมาณในการจัดการ รวมถึงโครงการและค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยประสานงาน ส่วนฝ่ายออสเตรเลีย จะให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเพื่อกำหนดหลักสูตรและพัฒนานโยบายขั้นตอนการปฏิบัติงาน ของศูนย์ความเป็นเลิศฯ โดยมีกระทรวงการต่างประเทศและการค้า เป็นหน่วยประสานงาน