In Thailand

เรือนจำกบินทร์บุรีคืนคนดีสู่สังคมราชฑัณ แก้ไขสังคมให้โอกาส



ปราจีนบุรี-เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี จัดกิจกรรม"คืนคนดีสู่สังคม ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทย ให้โอกาส

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี จัดกิจกรรม"คืนคนดีสู่สังคม ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทย ให้โอกาส " โดยนายพรชัย ไวทยะวิจิตร ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี และเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอกบินทรฺ์บุรี ได้ทำพิธีส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างพร้อมทุนในการประกอบอาชีพ ให้กับ นางสาว ปัทมา บัวหอม อดีตผู้ต้องขัง

ซึ่งได้รับทุนจากคณะรักกางเขนแห่งจันทบุรี นำโดย ซิสเตอร์ ขวัญเรียม เพียรรักษา และคณะ โดยมี นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอกบินทร์บุรีเป็นประธานในพิธีส่งมอบ และภาคีเครือข่ายของเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ได้แก่นายฉลองรัฐ ทองโบราณ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอกบินทร์บุรี,กศน.อำเภอกบินทร์บุรีและนายกฤษฎากรณ์ สุริยวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกบินทร์เข้าร่วมในพิธีส่งมอบฯด้วย

ซึ่งเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี มีอำนาจในการควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 10 ปี และมีอัตราความจุเพียง 440 คน หากมีอัตราโทษหรือความจุเกิน จำเป็นจะต้องมีการย้ายระบายไปยังเรือนจำที่มีความมั่นคงสูงกว่า และมีความแออัดน้อยกว่า และในระหว่างที่ผู้ต้องขังถูกควบคุมอยู่ภายในเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ได้มีการฝึกวิชาชีพด้านต่างๆให้แก่ผู้ต้องขัง ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการทำอาหาร ทำขนม ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด ตลอดจนช่างไม้เครื่องเรือน

โดยภายหลังพ้นโทษเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี มีการติดตามโดยศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ(ศูนย์CARE) สนับสนุนให้การช่วยเหลือด้านต่างไป เช่น การออกติดตามเยี่ยมบ้านผู้พ้นโทษ ทุนประกอบอาชีพ การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ ค่าพาหนะในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ตลอดจนให้คำแนะนำปรึกษา ช่วยเหลือครอบครัวของผู้ต้องโทษ และผู้ที่พ้นโทษไปแล้ว และในวันนี้นับเป็นโอกาสดีอีกวาระหนึ่ง ที่เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ได้มีผู้พ้นโทษประสานขอความช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ

 โดยรายของนางสาวปัทมา บัวหอม อดีตผู้ต้องขัง คดียาเสพติดให้โทษ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี 9 เดือน และได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ได้กลับมาขอความช่วยเหลือด้านทุนประกอบอาชีพ จากศูนย์ CARE เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี โดยนางพวงผกา เชื้อสุข ผู้บัญชาการเรือนจำฯในขณะนั้นได้สนับสนุนทุนประกอบอาชีพในการขายลูกชิ้นทอด เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท(สองพันบาทถ้วน)ให้กับนางสาวปัทมา บัวหอมได้มีทุนประกอบอาชีพจนได้ขายมาถึงทุกวันนี้ ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน การจำหน่ายลูกชิ้นทอดเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ

นาวสาวปัทมา บัวหอม จึงแจ้งแก่ศูนย์ CARE เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี ว่ายังคงมีเวลาช่วงกลางวันเหลือ จึงมีความประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจากศูนย์ CARE อีกครั้งในการจำหน่ายก๋วยเตี๋ยว ทางเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรีจึงประสานกับภาคีเครือข่ายของเรือนจำฯ  โดยในครั้งนี้รับการสนับสนุนในการประกอบอาชีพการขายก๋วยเตี๋ยว จากคณะรักกางเขน แห่งจันทบุรี นำโดยซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา และคณะฯ  นำรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของเดิมมาปรับปรุงให้สามารถขายก๋วยเตี๋ยวควบคู่ไปกับการขายลูกชิ้นได้

ทั้งนี้ คณะรักกางเขน แห่งจันทบุรี ได้มอบทุนในการปรับปรุงมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง และวัสดุอุปกรณ์ในการขายก๋วยเตี๋ยวเป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน)พร้อมทุนในการประกอบอาชีพอีก 3,000บาท(สามพันบาทถ้วน)รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 18,000 บาท(หนึ่งหมื่นแปดพันบาทถ้วน) ซึ่งทางเรือนจำอำเภอกบินทร์บุรีพร้อมด้วยหน่วยงานภาคีฯมีความมุ่งมั่นที่จะให้โอกาสแก่ผู้ที่ก้าวพลาด ได้มีอาชีพและมีโอกาสในการปรับตัวเข้าสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป

มานิตย์  สนับบุญ-ข่าว/ฉลองรัตน์  ทองโบราณ-ภาพ/ปราจีนบุรี