In Thailand
บุญกฐินสามัคคีศรีสะเกษสืบสานประเพณี ลอยกระทงรำวงย้อนยุค
ศรีสะเกษ-วัดบ้านหนองแก้ว อำเภอเมืองศรีสะเกษ จัดงานบุญกฐินสามัคคี สืบสานประเพณีลอยกระทง รำวงย้อนยุค ตุ้มโฮมฮักแพง เสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่วัดบ้านหนองแก้ว ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประหัส พิมมากร กำนันตำบลหนองแก้ว พร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. และพี่น้องชาวบ้านหนองแก้ว หมู่ที่ 2 และ 3 ได้ร่วมกันจัดงานบุญกฐินสามัคคี สืบสานประเพณีลอยกระทง รำวงย้อนยุคตุ้มโฮมฮักแพง เสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน โดยภายในงานจะมีคณะกรรมการหมู่บ้านได้จัดทำพวงมาลัยขึ้นมาเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ที่จะมาซื้อไปคล้องให้กับสาวรำวง พวงละ 20 บาท หรือถ้าใครอยากที่จะเหมารอบก็สามารถทำได้ จำหน่ายรอบละ 100 บาท ส่วนเงินที่ได้จากการขายพวงมาลัยในงานครั้งนี้ ก็จะนำไปสมทบกับกองกฐินเพื่อถวายให้แก่ทางวัดบ้านหนองแก้วต่อไป ซึ่งบรรยายการศภายในงานก็เต็มไปด้วยความรื่นเริงและความสนุกสนาน
ทั้งนี้ รำวงย้อนยุค เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจากรำโทน เป็นการรำและร้องของชาวบ้าน ซึ่งจะมีผู้นำทั้งชายและหญิงรำกันเป็นคู่ๆ รอบครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำและร้องเป็นไปตามความถนัดไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำและร้องง่ายๆมุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า “รำโทน” ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2487 ในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติ รำวงย้อนยุคมีมา 40-50 ปีมาเเล้ว เเต่ก่อนก็จะมีตามงานวัด เป็นคณะคนที่ไปเที่ยวงานก็จะซื้อบัตรขึ้นไปขอรำวงกับสาวรำวงในคณะนั้นๆ เเต่พอยุคสมัยเปลี่ยน คณะรำวงก็เริ่มหายไป สำหรับกิจกรรมการรำวงย้อนยุค นับเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านได้มีความสามัคคี และทำให้มีสุขภาพแข็งแรงเพราะเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องมีการซักซ้อมให้มีรูปแบบท่าทางเคลื่อนไหวที่พร้อมเพียงกัน จึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากชาวบ้านจำนวนมาก และเพื่อให้สตรีและประชาชนทั่วไป มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการออกกำลังกายด้วยการรำวงย้อนยุคอย่างถูกต้อง เป็นการช่วยกระตุ้น ส่งเสริม และสร้างกระแสการออกกำลังกายด้วยรำวงย้อนยุค ซึ่งจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงลดความเสี่ยงจากโรค โดยการนำเสียงเพลงลูกทุ่งมาเป็นกลยุทธ์ นำคนทุกเพศทุกวัยให้มาออกกำลังกาย ทำให้เกิดมีความรัก ความสามัคคี และมีความรักใคร่ปรองดองในชุมชนมากขึ้น อีกทั้งเป็นการสืบสานขนมธรรมเนียมประเพณีอีกด้วย
นายประหัส พิมมากร กำนันตำบลหนองแก้ว กล่าวว่า การกิจกรรมรำวงย้อนยุคในครั้งนี้ขึ้น ก็เพื่อเป็นการสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน อยากให้ชุมชนมีความรื่นเริง สนุกสนาน หลักจากที่ผ่านพ้นวิกฤติโรคโควิดมาได้ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับองค์กฐิน และที่สำคัญก็เพื่อต้องการที่จะฟื้นฟูการรำวงย้อนยุค ที่กำลังจะถูกลืมเลือนไปจึงอยากที่จะกระตุ้นให้พี่น้องชาวอีสานเราให้หันมาเห็นความสำคัญในการรำวงย้อนยุค เราจะได้มีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ดีงาม และที่สำคัญอีกอย่างก็คืออยากจะให้ลูกหลานวัยรุ่นหนุ่มสาวได้เข้ามามีส่วนร่วมในชุมชนหมู่บ้านมากขึ้น และเพื่อเป็นการสร้างความรื่นเริงในกองบุญกองกุศล ที่ทางผู้หลักผู้ใหญ่สนับสนุนงบประมาณมาให้กฐินสามัคคีเราได้เกิดขึ้น
ลักขณา กงแก้ว / ผู้สื่อข่าวเคเบิลทีวีศรีสะเกษ