In Thailand
ปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุขหลวงพี่น้ำฝนนำทัพ
นครปฐม-เรือนจำกลางนครปฐม เปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข หลวงพี่น้ำฝนนำทัพบุญช่วยสานงานสังคม
กรมวังผู้ใหญ่ ในพระองค์ 904 เปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โมเดลจัดแยกการตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมสนับสนุนส่งเสริมการจัดการที่เกิดประโยชน์ลดความเครียดสร้างความสะดวกในการรับการตรวจรักษาอย่างไม่กดดัน
วันที่ 11 พฤศจิกายน 65 ที่อาคารรวมเมฆ โรงพยาบาลนครปฐม พล.อ.อ.สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ ในพระองค์ 904 เป็นประธานในพิธีเปิดหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยมีนายนายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม นายแพทย์ศุภชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเรือนจำกลางนครปฐม โรงพยาบาลนครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมและศิษยานุศิษย์ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง
สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เป็นการดำเนินการโครงการต้นแบบในการจัดทำหอผู้ป่วยสำหรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะโดยจะเป็นการจัดไว้สำหรับแยกออกจากห้องรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่มารับการตรวจและรักษาตัวภายในโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ซึ่งจะมีแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ประจำอยู่ในหอผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งจะมีการเตียงสำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ที่มารับการตรวจรักษาทั้งสองส่วนแบบแยกออกจากกันโดยชัดเจน
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข ถือว่าเป็นหอผู้ป่วยแห่งแรกที่ทางอาตมาและศิษยานุศิษย์ของวัดไผ่ล้อมได้ร่วมมือกับเรือนจำกลางนครปฐม ในการจัดสร้างขึ้นที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยเป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ วัด และภาคประชาชน ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่าเดิมทีที่อาตมาเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลนครปฐม ครั้งหนึ่งได้เห็นมีรถของกรมราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาที่ ซึ่งก็มีภาพที่น่าหดหู่ใจเนื่องจากต้องมีการสวมกุญแจมือและบางรายที่ก่อโทษหนักก็จะถูกใส่โซตรวนล่ามขามาด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ต้องขังเกิดความอาย วิตกและเกิดความเครียดทั้ง ๆที่ป่วยและยังขาดอิสรภาพ ขณะที่ประชาชนที่มารับการรักษาก็เกิดความไม่สบายใจเมื่อต้องมาอยู่ในช่วงของการรอรับการตรวจรักษา จึงเป็นที่มาที่อยากจะทำให้เกิดความสะดวกและแยกสัดส่วนที่ชัดเจนขึ้น
“อาตมาเห็นว่าการต้องจัดทำหอผู้ป่วยแบบแยกออกจากกัน จะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสะดวกในการรับการตรวจรักษา เพราะประชาชนที่ป่วยก็มาเกิดความกลัว ส่วนผู้ต้องโทษก็เครียดไปด้วย อาตมาจึงได้มาหารือกับศิษยานุศิษย์ กองทัพบุญของวัดไผ่ล้อม ซึ่งก็ได้เห็นตรงกันว่าควรที่จะมีหอผู้ป่วยที่ยากจากกัน จึงได้นำไปสู่การหารือกับเรือนจำกลางนครปฐมและกรมราชทัณฑ์ และเกิดเป็นหอผู้ป่วยต้นแบบ ที่โรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับสังคมอีกหนึ่งรูปแบบด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย