In Thailand
ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ปิดภารกิจแจกถุงปันสุขทุกวันอาทิตย์
สุราษฎร์ธานี-3ปีแห่งการช่วยเหลือ 20 เดือน แห่งความทุ่มเท ผู้ว่าฯสุราษฎร์ ปิดภารกิจแจกถุงปันสุขทุกวันอาทิตย์ เผย ยอดรวมแจกสิ่งของ ราว 80,000 ชุด โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ
บรรยากาศเช้าวันนี้ (27 พ.ย.65) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังคงมีประชาชนนับพันคนมาต่อแถวรอรับการแจกถุงปันสุข ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาของผู้ที่ผ่านไปผ่านมา โดยวันนี้ มี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายพีระ กาญจนพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 นายณรงค์หลักกำจร ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตลอดจน ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ อส.และจิตอาสา ร่วมให้บริการแจกถุงปันสุขแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย คนพิการ ผู้สูงอายุ เป็นสัปดาห์สุดท้ายหลังดำเนินการต่อเนื่องมาประมาณ 20 เดือน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการทำถุงปันสุข พัฒนามาจากการตั้งตู้ปันสุข หน้าจวนผู้ว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด 19 ระบาดใหม่ๆ มีการหยุดกิจการ การกักตัวผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง จนขาดรายได้มีประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงเกิดกระแสการทำตู้ปันสุข โดยช่วงแรกมีส่วนราชการภาคเอกชนและประชาชนนำสิ่งของมาเติมตู้ทุกเช้า แต่ประสบปัญหาว่าสิ่งของไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึง จึงได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการทำถุงปันสุขโดยจัดสิ่งของรวมเป็นชุดประกอบด้วยข้าวสาร ปลากระป๋อง น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา ของใช้ในครัวเรือนที่จำเป็น รวมถึง นมและขนม
ซึ่งต่อมา ได้ทำเป็นถุงปันสุขเด็ก บางครั้งก็ได้รับ บริจาคพืชผักสมุนไพร จากชุมชน วัด เป็นจำนวนมาก ก็นำมาแจกจ่ายให้ประชาชนได้นำไปใช้กันในครัวเรือนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยประมาณการเบื้องต้น ตลอด 20 เดือนที่ทำถุงปันสุข มีการแจกจ่ายสิ่งของไปราว 80,000 ชุด ประกอบด้วยข้าวสาร 80,000 กิโลกรัมปลากระป๋อง 160,000 กระป๋องน้ำมันพืชเกือบแสนขวด ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาทั้งสิ้น ทั้งจากส่วนราชการ ห้างร้านภาคเอกชน ภาคประชาชนหรือแม้กระทั่งพระคุณเจ้าจากวัดต่างๆ ประเมินมูลค่าไม่น้อยกว่า 8 ล้านบาท โดยไม่ได้ใช้ งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด
แม้ว่าขณะนี้ความเดือดร้อนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยยังไม่ได้หมดไป แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ได้คลี่คลาย กิจกรรมกิจการต่างๆกลับมาเดินได้ตามปกติจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการยุติภารกิจการแจกถุงปันสุขทุกวันอาทิตย์ พร้อมทั้งขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ด้วยดีมาโดยตลอด และหากเกิดภาวะวิกฤต หรือความเดือดร้อนใดๆเกิดขึ้นอีก ก็พร้อมที่จะเป็นคนกลางประสานความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน มาส่งถึงมือประชาชนอีกครั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวปิดท้าย