Authority & Harm

ผู้การฯนครปฐมนำทีมแถลงรวบ4 คนร้าย หลังบุกปล้นทรัพย์ชาวบ้านที่ย่านศาลายา



นครปฐม-ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำทีมแถลงรวบ 4 คนร้ายก่อเหตุปล้นใช้ปืน ปล้นทรัพย์ชาวบ้าน กลางวันแสกๆ โดยผู้ต้องหาอ้างมารับจ้างทวงเงินตำรวจควบคุมสอบสวนต่อเพื่อเร่งหาผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีในรถอีก 1 คัน ซึ่งชาวบ้านสงสัยว่าจะเป็นคนมีสีที่มาร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ วอนตำรวจติดตามให้ได้ตัวโดยไว เพราะชาวบ้านยังหวาดกลัว ขณะผู้เสียหายหลบออกจากบ้านที่กำลังก่อสร้างตั้งหลักก่อน

วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 64  ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.สุรชาติ มณีจักร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมชุดคลี่คลายคดี ได้แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ในพื้นที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 

โดยสามารถจับกุม ผู้ต้องหาและของกลาง ประกอบด้วย 
1. นายชัยภัทรหรือโจ้ แสงอภัย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/183 ม.2 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 42/2564
2. นายณัฐภัทรหรือฟลุ๊ค คีตรัต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236/181 ถ.แสงชูโต  ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 43/2564
3. นายมีชัยหรือมิก ศรีพรม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1169 ซ.อนามัยงามเจริญ 27 ต.ท่าข้าม อ.บางขุนเทียน จ.กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 41/2564
4. นายอภิญญาหรือโฟล๊ค เพียรล้ำเลิศ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ซ.ท่าข้าม 4 แยก 4  ต.แสมดำ อ.บางขุนเทียน จ.กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม 40/2564


พร้อมด้วยของกลาง คือ
1) รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ HONDA CIVIC สีดำ หมายทะเบียน 4กด 2497 กรุงเทพมหานคร  จำนวน 1 คัน (ที่ใช้ก่อเหตุ) 

2) รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ SUZUKI SWIFT สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กท 3400 กรุงเทพมหานคร หมายเลขตัวรถ  MMSHZC72S00139222  จำนวน 1 คัน 
(ที่ใช้ก่อเหตุ) ตรวจยึดจาก นายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต
3) อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว 5 นัดขนาด 12 ยี่ห้อ Reminton หมายเลขประจำปืน AB66323M   หมายเลขทะเบียนปืน กท.5179374 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 17 นัด (ที่ใช้ในการก่อเหตุ) 
4) อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 ยี่ห้อ Kimber หมายเลขประจำปืน k360665 หมายเลขทะเบียนปืน
กท 55216547 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 17 นัด
5) อาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 ยี่ห้อ colt หมายเลขประจำปืน 584854 หมายเลขทะเบียนปืน อบ 5/1480 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 7 นัด 

โดยกล่าวหาว่า  “ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก้ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น, ข่มขืนใจผู้อื่น และ ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ”

โดยในการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ของวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ได้คลิบภาพเหตุการณ์มีผู้บันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายบุกทำร้ายร่างกายกันโดยมีการขับรถมา 3 คันมาพบผู้เสียหายและมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ ต่อมาได้มีข้อมูลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการปล้นทรัพย์ ซึ่งมีคนร้ายที่ปรากฏในคลิบบุกมาปล้นทรัพย์จากเจ้าทุกข์ ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้เสียหายเป็นชายวัย 21 ปี ซึ่งบุตรชายของชายอายุ 34 ปี ซึ่งได้มาจับตัวชายวัย 21 ปี ใส่กุญแจมือและมัดขา อุ้มขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ โดยทรัพย์ที่สูญหายไปเป็นเงินสด 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ซึ่คนร้ายได้โยนมือถือทิ้งระหว่างการหลบหนี และชาวบ้านมีการบันทึกคลิบไว้และช่วยชายคนดังกล่าวออกมาจากกลุ่มคนร้ายได้ โดยตำรวจกำลังเร่งติดตามคนร้ายที่มากับรถอีก 1 คันที่ยังหลบหนีอยู่ 

พล.ต.ต.สุรชาติ มณีจักร ผู้บังคับการตรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เผยว่า สำหรับคนร้ายทั้งหมด 4 ที่ได้ทำการจับกุมในวันนี้พร้อมของกลางทั้งหมดได้รับสารภาพว่าเป็นชายในคลิบที่เกิดขึ้น โดยมีลักษณะของการให้ข้อูลว่ามารับจ้างทวงเงินจากผู้เสียหาย มียอดเงิน หลายแสนบาท ซึ่งเกิดจาการขัดแย้งกันทางธุรกิจ โดยยังมีกลุ่มบุคคลอื่นที่ยังหลบหนีอีกแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ทั้งหมดว่าเป็นใครและยังต้องสอบสวนว่าเป็นคนที่มีสีหรือไม่ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามคนที่ยังหลบหนีอีก โดยไม่ได้มีการการพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด และข้อมูลยังเปิดเผยมากไม่ได้เพราะจะเสียรูปคดี เนื่องจากมีกลุ่มคนที่ต้องเร่งติดตามจับกุมอยู่ 

ต่อมา พ.ต.อ.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง รองผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.จุลภณ มีชำนาญ ผกก.สภ.พุทธมณฑล พ.ต.ท.วิเชธ เชยกลิ่น รองผกก.สส. พ.ต.ท.บุญพา ปาละแม รองผกก.สส.หัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่คอมานโด และเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ที่ถูกจับกุม มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณ หมู่ที่ 1 ตำบลศาลายา โดยนำรถยนต์เก๋ง 2 คันที่ใช้ก่อเหตุมาร่วมในการทำแผน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงแล้วเสร็จและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล เพื่อทำบันทึกก่อนส่งตัวดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับบ้านผู้เสียหายในบ้าน ใกล้จุดที่เกิดเหตุพบว่าคนทั้งหมดไม่อยู่บ้านมีเพียงคนงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่กำลังต้อเติมและสร้างบ้านชันเดียวที่ยังไม่แล้วเสร็จ สอบถามทราบว่าคนในบ้านไปต่างจังหวัดเพราะอาจจะยังหวาดกลัวและขอหลบไปอยู่ในที่สงบก่อน

ด้าน นายมนูญ นราสดใส อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 1 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม บอกว่าผู้เสียหายเป็นลูกบ้านของตนเองที่ดูแลมาหลายปี ซึ่งช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนส่วนใหญ่ไม่อยู่ออกไปทำงานกันเกือบหมด โดยได้เห็นคลิบจากคนแถวบ้านที่ถ่ายไว้ต้องบอกว่า เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและเป็นภาพที่ยอมรับไม่ได้เพราะเป็นความไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย โดยคนที่บ้านหลังดังกล่าวก็มีอาชีพทำสน ทำนาในพื้นที่แบบปกติเรียบง่าย 

นายมนูญ บอกอีกว่า ตอนนี้ชาวบ้านหวาดผวากันไปหมดเพราะยากจะทำใจ โดยมีความสงสัยว่า คนร้ายที่แต่งกายมาบางคนมีการใส่ชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ก็อยากจะขอให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมให้เร็ว ซึ่งหากเป็นคนมีสีก็คิดว่าน่ากลัวมากในสังคม และถ้าจับมาได้ก็จะคลี่คลายความสงสัยให้กับประชาชนได้