EDU Research & ESG

มาราธอน2023บุรีรัมสุดคึกคักนักวิ่งเคนยา เข้าป้ายกวาดรางวัลเพียบ



บุรีรัมย์-คึกคักที่สุดกว่า 30,000 หมื่นคน เข้าร่วมแข่ง“บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ปีที่ 7 ชิงเงินรางวัลสูงที่สุดในประเทศไทย มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท ในรูปแบบ Night Run (ไนท์ รัน) ภายใต้แนวคิด “สวรรค์ของนักวิ่ง” ที่สุดของงานวิ่งมาตรฐานโลกฝีมือคนไทย รับรองโดย สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race นักวิ่งเคนยา คว้าหลายรางวัล

วันที่ 22 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการแข่งขัน“บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” ของเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเมื่อเวลา 18.30 น.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายไชยวัฒน์  จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์ ร่วมงาน ได้ร่วมกันเปิดและปล่อยตัวนักวิ่งที่เดินทางมาจากทั่วประเทศและอีกกว่า 46 ประเทศทั่วโลก

โดยได้เริ่มปล่อยตัวนักกีฬาที่ภายในสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต นักวิ่งต่างประทับใจในการจัดการแข่งขัน เนื่องจากแต่จุดแข็งของเส้นทางวิ่งที่สวยงาม เป็นการปิดเมืองวิ่งด้วยแสงสีเสียงเต็มระบบ มีกองเชียร์ตลอดระทางการวิ่ง สร้างความครึกครื้น สนุกสนานตลอดเส้นทางตลอด

นักวิ่งกว่า 30,000 คน ในนี้มีนักวิ่งที่เดินทางมาจากหลายประเทศกว่า 46 ประเทศ ได้เดินทางมาร่วมลงแข่งในงานนี้ด้วย มีการปรับมาตรการต่างๆในการดูแลนักวิ่งให้ครอบคลุมและรอบด้านที่สุดในมาตรฐานระดับเหรียญทองหรือ Gold Label ซึ่งทั้งกองเชียร์ เหล่าเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล สาธารณสุข อาสาสมัคร ทีมงาน จำนวนรวมแล้วมากกว่า 5 หมื่นคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักวิ่งในครั้งนี้

โดยใช้เส้นทางวิ่งจากสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ออกสู่ถนนหลักผ่านตัวเมือง และเข้าเส้นชัยที่สนามฟุตบอล ช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ พร้อมทัพกองเชียร์ตลอดเส้นทาง 42.195 กม.ซึ่งเป็นการแข่งขันในรูปแบบ Night Run (ไนท์ รัน) ภายใต้แนวคิด “สวรรค์ของนักวิ่ง” ที่สุดของงานวิ่งมาตรฐานโลกฝีมือคนไทย รับรองโดย สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race 
 

การแข่งขันแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 กม., ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21.1 กม., มินิมาราธอน ระยะทาง 10 กม. และ ฟันรัน ระยะทาง 4.554 กม.

ผลการแข่งขันประเภทมาราธอน ชาย ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก นักวิ่งอีลิท ไตตัส คิปกอสไก(เคนยา)ทำเวลาได้ 2.08.57 ชม. ทำลายสถิติบุรีรัมย์มาราธอนเดิม ที่เคยทำไว้ 2.11.46 ชม. และทำลายสถิติในกลุ่มอายุ 18-29 ปี ชาย ที่สถิติเดิมทำไว้ 2.14.36 ชม. พร้อมทำลายสถิติเร็วที่สุดในประเทศไทย และ ถือเป็นเวลาที่เร็วที่สุดของอีเวนท์มาราธอนในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมรับรางวัลโบนัสรวมกว่า 1 ล้านบาท ที่ 2 ฟิกาดู เดเบเล (เอธิโอเปีย) 2.10.49 ชม. ทำลายสถิติ กลุ่มอายุ 30-39 ปี ชาย ที่สถิติเดิมทำไว้ 2.54.05 ชม.ที่ 3 เบนสัน เอ็มวานกี (เคนยา) 2.11.24 ชม.

มาราธอนหญิง ที่ 1 แอกเนส ไคโน (เคนยา) 2.28.08 ชม.ทำลายสถิติบุรีรัมย์มาราธอนเดิม 2.32.41 ชม. และทำลายสถิติ กลุ่มอายุ 30-39 ปี หญิง ที่สถิติเดิมทำไว้ 2.54.05 ชม. 2 ลูซี่ คาริมี (เคนยา) 2.28.36 ชม.ที่ 3 อาเบรุ เซนเนเบ (เอธิโอเปีย)  2.29.07 ชม.ทำลายสถิติ กลุ่มอายุ 40-49 ปี หญิง ที่สถิติเดิมทำไว้ 3.20.46 ชม.

ส่วนคนไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรก มาราธอนชาย “สัญชัย นามเขต” เจ้าของเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ทำเวลาได้ 2.30.00 ชม.คว้าแชมป์คนไทยและครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เป็นสมัยที่ 4 พร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาทเช่นเดียวกับ ฝ่ายหญิง ลินดา อินทะชิต ได้แชมป์อีกสมัย ทำเวลาได้ 2.51.51 ชม.

สัญชัย นามเขต เปิดเผยว่า ถือว่าปีนี้ประสบความสำเร็จ ทำได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ รู้สึกพอใจกับสถิติที่ทำได้ดีกว่าปีที่แล้ว ด้วยอากาศที่ดี มีกองทัพกองเชียร์เป็นกำลังใจตลอดเส้นทาง ทำให้ทำสถิติได้ดีขึ้น ปีหน้าตั้งใจจะทำสถิติให้ดีขึ้น ดีกว่าปีนี้ 

ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ชาย ที่ 1 เจมส์ คารันจา (เคนยา) 1.05.02 ชม.ทำลายสถิติกลุ่มอายุ 30-39 ปี ชาย ที่สถิติเดิมทำไว้ 1.09.29 ชม. ที่ 2 คินดู ทิรันเนห์ (เอธิโอเปีย) 1.05.34 ชม. ที่ 3 “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม ที่เป็นคนไทยที่เข้าเส้นขัยฮาล์ฟมาราธอนเป็นคนแรก 1.06.05 ชม. ทำลายสถิติ กลุ่มอายุ 18-29 ปี ชาย ที่สถิติเดิมทำไว้ 1.07.58 ชม

ฮาล์ฟมาราธอน หญิง ที่ 1 อรอนงค์ วงศร 1.21.27 ชม. สถิติ กลุ่มอายุหญิง 30-39 ปี ที่สถิติเดิมทำไว้ 1.24.29 ชม ที่ 2 อรนุช เอี่ยมเทศ 1.28.47 ชม. ที่ 3 ดอร์คัส ทารัส (เคนยา) 1.30.09 ชม.

ประเภทมินิมาราธอน ชาย ที่ 1 “เบล” ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม น้องชายฝาแฝดของ “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม 32.10 นาที ที่ 2 อีน็อค คีเกน (เคนยา) 32.21 นาที ทำลายสถิติเดิม รุ่นอายุ 30-39 ปี ชาย ที่สถิติเดิมทำไว้ 33.03 นาที ที่ 3 อาทิตย์ โสดา 32.24 นาที

มินิมาราธอน หญิง ที่ 1 “น้องดิว” เขมจิรา เชื้ออินทร์ วัย 16 ปี ทำสถิติได้ 39.20 นาที ทำลายสถิติ กลุ่มอายุ 13-17 ปี หญิง ที่สถิติเดิมทำไว้ 41.09 นาที ที่ 2 ณัฐธิดา เถาหน้อย 40.25 นาที ที่ 3 ณัฏฐพร สมิทธิวิโรจน์ 41.24 นาที
 
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง  จ.บุรีรัมย์