In News
นายกฯพอใจสัญญาณลงทุนสดใส2565 ธุรกิจใหม่4.29แสนล./ลงทุน4.89แสนล.
กรุงเทพฯ-นายกรัฐมนตรีพอใจสัญญาณการลงทุนสดใส ปี 65 ยอดพุ่งทั้งธุรกิจตั้งใหม่ 76,488 ราย มูลค่าธุรกิจ 4.29 แสนล้าน ขณะบีโอไอออกบัตรส่งเสริม 1,490 โครงการ จ่อลงทุน 4.89 แสนล้าน มั่นใจส่งผลบวกการจ้างงานหนุนรายได้ประชาชนระยะยาว
วันที่ 27 ม.ค. 66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบข้อมูลด้านการลงทุนที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยยอดธุรกิจตั้งใหม่ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน การออกบัตรส่งเสริมที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ออกให้แก่นักลงทุนไทยและต่างชาติตลอดปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นมากเป็นสัญญาณชี้การลงทุนใหม่ในระยะต่อไป ที่จะนำไปสู่การจ้างงานและการมีงานทำของประชาชนในระยะยาว
“นายกรัฐมนตรีพอใจกับยอดธุรกิจตั้งใหม่และการขอรับส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งการลงทุนใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะนำไปสู่การจ้างงาน การมีรายได้และกำลังการใช้จ่ายของประชาชนในระยะยาว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญ”น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในปี 2565 ทั้งสิ้น 76,488 ราย เพิ่มขึ้น3,530 ราย หรือร้อยละ5 มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ 429,828.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200,020.30 ล้านบาท หรือร้อยละ 87.04 เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยในจำนวนนี้เป็นการลงทุนภายใต้กฎหมายการประกอบธุรกิจต่างด้าว ของคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาต 583 ราย เงินลงทุน 128,774 ล้านบาท และธุรกิจตั้งใหม่ในภาพรวมยังสูงกว่าธุรกิจที่เลิกกิจการหลายเท่า ซึ่งปี 2565 พบว่ามีการเลิกกิจการ 21,880 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 127,048.39 ล้านบาท
สำหรับปี 2566 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดว่ายอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จะอยู่ที่ 72,000 – 77,000 รายใกล้เคียงกับปี 2565 ตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3-4 การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว การลงทุนทั้งภาคเอกซนและภาครัฐ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากทั้งบริษัทสัญชาติไทยและต่างชาติที่เข้ามายังสำนักงานบีโอไอตลอดปี 2565 มีทั้งสิ้น 2,119 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละร้อยละ 41 เงินลงทุน 664,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 เทียบกับปี 2564 ซึ่งโครงการที่ยื่นขอเข้ามานี้สำนักงานบีโอไอจะทยอยพิจารณาและออกบัตรส่งเสริมและลงทุนตามลำดับต่อไป แต่กลุ่มที่จะมีการลงทุนในระยะเวลาอันใกล้นี้คือกิจการที่บีโอไอได้ออกบัตรส่งเสริมแล้ว ซึ่งในปี 2565 มีทั้งสิ้น 1,490 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 มูลค่าเงินลงทุน 489,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับปี 2564