EDU Research & ESG

ตัวแทนครูเดินทางเข้าร้องทุกข์กับนักข่าว ชมตำรวจที่อำนวยในการต่อสู้คดี



ชัยภูมิ-ครูลุยปราบโกงเหยื่อสนามฟุตซอล ตัวแทนครูเดินทางเข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว พร้อมขอบคุณตำรวจที่อำนวยความสะดวกในการต่อสู้คดี

ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสรรค์รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม พร้อมตัวแทนครูจำนวน 10คน เดินทางมาแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จากกรณี เมื่อวันที่25ธันวาคม 2565ที่ได้ร่วมตัวกันเดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องกับนายประสงค์ พรโสภิน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต3 และในวันดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จัตุรัส มาอำนวยความสะดวกให้กับคณะชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ ได้มอบกระเฉ้าผลไม้ที่เป็นผลิตผลของเด็กนักเรียน ที่เกิดจากการอบรมสั่งสอนของครูที่ถูกนักการเมืองใช้ครูเป็นเครื่องมือในการโกงเงินแผ่นดิน 

นอกจากนี้ยังได้ยื่นหนังสือ เพื่อขอให้สื่อมวลชน ได้ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงของการทุจริตสนามฟุตซอล โดยครูตกเป็นแพะรับบาปหลายร้อยคน ซึ่งขณะนี้ครูหลายรายต้องถูกดำเนินคดีออกจากราชการโดยไม่มีบำเหน็จบำนาญ ส่งผลกระทบต่อตัวครูเองและโดยเฉพาะครอบครัวด้วยโดยสิ่งที่ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอต่อสาธารณะชนคือ ข้อมูลข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาของ ปปช.(คณะผู้ไตร่สวนเบี้องต้น)กรณีสนามฟุตซอล จังหวัดชัยภูมิ  

ดร.ปิยะพัชร์ ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้กระทบกระเทือนต่อจิตใจ ความเป็นอยู่ ของครูที่ตกเป็นเหยื่อของโครงการอัปยศนี้ โดยเฉพาะด้านซื่อเสียงที่ครูได้สั่งสมมาตลอดอายุการรับราชการ สนองแผ่นดิน แต่กลับกลายมาเป็นบุคลากรที่ถูกสังคมประณามตราหน้าว่าคดโกงแผ่นดิน ทั้งที่ควาเป็นจริงแล้วนักการเมืองที่อยู่เบี้องหลังของโครงการนี้ ต่างหากที่ควรกระชากหน้ากากออกมาแล้วนำไปลงโทษ ไม่ใช่ครูที่ตกเป็นเครื่องมือ 

โดยเฉพาะเมื่อเรื่องฟ้องร้องเข้าสู่กระบวนการไตร่สวนจนนำไปสู่การพิจารณาของ ปปช.ปรากฏว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง ดังนั้นในวันนี้ทุกคนที่ประสบชตากรรมเดียวกันจึงรวมตัวกันลุกขึ้นมา ทวงความยุติธรรม เพื่อขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาทางแก้ปัญหา สะสางบ่วงกรรมที่ครูได้รับขณะนี้ ตลอดจนนำไอ้โมงตัวจริงมาดำเนินคดีต่อไป//////////////

วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ