EDU Research & ESG
ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี คืนวันที่5ก.พ.ถึงรุ่งเช้า6ก.พ.นี้
ปราจีนบุรี- เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ 4 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยว่าคืน 5 ถึงรุ่งเช้า 6 กุมภาพันธ์ 2566 ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี หรือ “ไมโครฟูลมูน” ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กว่าปกติเล็กน้อย
นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ กล่าวว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01:30 น. จะเกิดปรากฏการณ์ “ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี” หรือ “ไมโครฟูลมูน” (Micro Full Moon) มีระยะห่างจากโลก 405,818 กิโลเมตร เวลาที่เหมาะสมในการสังเกตการณ์ คือช่วงเย็นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 18:02 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กกว่าปกติเล็กน้อย
นายศุภฤกษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรี 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 27.3 วัน ในแต่ละเดือนจะมีทั้งวันที่ดวงจันทร์ใกล้โลกและไกลโลก ตำแหน่งที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะห่างเฉลี่ยประมาณ 357,000 กิโลเมตร และตำแหน่งที่ดวงจันทร์ไกลโลกที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะห่างเฉลี่ยประมาณ 406,000 กิโลเมตร การที่ผู้คนบนโลกมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงในคืนที่ดวงจันทร์โคจรเข้ามาใกล้หรือไกลโลกมีขนาดที่แตกต่างกัน นับเป็นเหตุการณ์ปกติที่สามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ ขณะที่ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งไกลโลกที่สุด หรือใกล้โลกที่สุด อาจไม่ใช่วันที่ดวงจันทร์เต็มดวงก็ได้ แต่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันที่ดวงจันทร์อยู่ในระยะทางที่ไกลโลกมากที่สุดและเป็นดวงจันทร์เต็มดวงพอดีนั่นเอง
สำหรับปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี" หรือ ซูเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon) จะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 30 ถึง เช้าวันที่ 31 สิงหาคม 2566 นอกจากนี้ยังเป็นดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สองของเดือน หรือ บลูมูน (Blue Moon) จึงเรียกว่า “ซูเปอร์บลูมูน” (Super Blue Moon) มีระยะห่างจากโลก 357,334 กิโลเมตร ช่วงเวลาดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ที่ www.facebook.com/NARITpage