Authority & Harm
ช้างป่ากระทืบพระสงฆ์มรณภาพขณะออกบิณฑบาตรเช้ามืด
กาญจนบุรี-รับแจ้งว่าพบศพพระภิกษุนอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างทาง สภาพศพนอนคว่ำหน้าสวมจีวร ตามร่ายกายมีบาดแผลคล้ายถูกของหนักทับศรีษะจนแหลกเหลวเสียชีวิตทันที
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ร.ต.อ.สฤษฏ์ ทีคะสุข รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี รับแจ้งว่าพบศพพระภิกษุนอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างทาง หมู่ 8 บ้านบ้องตี้น้อย ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค นายเอกชัย จี้อุ่น กำนัน ต.วังกระแจะ ประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค และมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ร่วมชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมาดูเหตุการณ์ เป็นถนนในหมู่บ้านห่างจากวัดบ้องตี้น้อย 200 เมตร ริมถนนเป็นพงหญ้าและกอตะไคร้ พบศพพระภิกษุทราบชื่อคือ พระสมิธ ไม่มีนามสกุล อายุ 58 ปี เป็นชาวมอญ สภาพศพนอนคว่ำหน้าสวมจีวร ตามร่ายกายมีบาดแผลคล้ายถูกของหนักทับศรีษะจนแหลกเหลวเสียชีวิตทันที นอนจมในกอหญ้าคาทับ พบบาตรพระแสตนเลส ตกอยู่เหนือศีรษะสภาพถูกทุบฟาดจนบุบ และฝาบาตรพระตกอยู่ด้านข้าง ใกล้กันบนพื้นดินรอบๆ พบรอยเท้าของช้างป่าจำนวนหลายรอยอยู่รอบบริเวณศพของพระสมิธ และมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี นำศพพระสมิธ มาชันสูตรที่ รพ.ไทรโยค
จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้อำนวยการของ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการ จ.กาญจนบุรี นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค สั่งการให้ นายกิรติ จิณแพทย์ ปลัดอาวุโส นายสุขาย ไม้แก่นจันทร์ ปลัดอำเภอ หน.ฝ่ายความมั่นคง นายกิตติคุณ อินบุญ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอไทรโยคที่ 7 ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพระสงฆ์ถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพ ดังกล่าวเพื่อนำเข้าที่ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาช้างป่าจังหวัดกาญจนบุรี
พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค ให้ข้อมูลว่า พระสมิท อายุ 58 ปี จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้องตี้น้อย ออกบิณฑบาตรช่วงเวลาประมาณ 06.00 น.และถูกช้างป่าทำร้ายขณะออกบิณฑบาตรทำให้มรณภาพ จนถึงเวลาประมาณ 06.30 น.ชาวบ้านในพื้นที่มาพบศพอยู่ข้างทาง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ส่วนชาวบ้านให้ข้อมูลว่าได้ยินเสียงคล้ายคนร้องคนตะโกนไล่อะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนฟ้าสว่างก็มีคนมาพบศพพระสมิธ
ทางด้าน นายเนรมิตร เหลืองอร่ามฟ้า เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่บ้านบ้องตี้น้อย มีแนวเขตหมู่บ้านมีลำห้วยติดกับอุทยานแห่งชาติไทรโยค และอยู่ใกล้กับแนวชายแดนเมียนมาร์ สภาพพื้นที่โดยรอบหมู่บ้านเป็นป่าก็จะมีฝูงช้างออกจากป่ามาที่ลำห้วยและเข้ามาเดินอยู่ในหมู่บ้านหาอาหารอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ทำร้ายคน เพิ่งจะมีครั้งแรกที่ทำร้ายพระจนมรณภาพ จากรอยเท้าที่พบเป็นรองเท้าของช้างยังไม่สามารถจะระบุเพศได้แต่ลักษณะโตเต็มวัยแล้ว