In News

ครม.อนุมัติให้สิทธิสำรวจ-ผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย



กรุงเทพฯ-ครม. อนุมัติการให้สิทธิ สำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย ให้บริษัท ปตท. สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด  เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 และ G3/65  และอนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 

วันที่ 8 มีนาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันที่ (7 มีนาคม  2566) อนุมัติ ให้บริษัท ปตท. สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด  เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 และ G3/65  และอนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65  ทั้งนี้  อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีอำนาจลงนามกับผู้ได้รับสิทธิ พร้อมกำหนดการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการในสัญญาแบ่งปันผลผลิตของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/65 G2/65 และ G3/65 นี้ ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558  ทั้งนี้ สิทธิในการสำรวจและการผลิตปิโตรเลียมของทั้งสามแปลง ในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตมีกำหนดระยะเวลาสำรวจ 6 ปี

ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้พิจารณาคุณสมบัติผู้ขอสิทธิ ข้อเสนอทางเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ และความเหมาะสมทางธรณีวิทยาแล้วว่า เป็นบริษัทและการมีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญ เพียงพอที่จะสำรวจผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม ทั้งยังได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนรัฐไม่น้อยกว่าขั้นต่ำ และได้มีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนรัฐนอกเหนือจากการชำระค่าภาคหลวงและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมตามกฎหมายตลอดระยะเวลาที่ได้รับสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมภายในประเทศ ตลอดช่วงระยะเวลาสำรวจ 6 ปีเป็นเงินไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท  และได้รับผลประโยชน์พิเศษในรูปแบบของค่าตอบแทนการลงนาม เงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทยและอื่น ๆ เป็นเงินประมาณ 640 ล้านบาทด้วย