EDU Research & ESG

เครือข่ายงดเหล้าสสส.หนุนกลุ่มชาติพันธุ์ ร่วมแม่ฮ่องสอนชูต้นแบบปลอดเหล้า



เครือข่ายงดเหล้า สสส. หนุนกลุ่มชาติพันธุ์ทั่วไทย ขยายผลงานบุญประเพณีปลอดเหล้าชู จ. แม่ฮ่องสอน ต้นแบบสำเร็จ พร้อมจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หวังฟื้นฟูคุณค่างานบุญประเพณีส่งต่อลูกหลาน

แม่ฮ่องสอน-สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) สสส. ร่วมกับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน สภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดเวทีแลกเปลี่ยนนโยบายสาธารณะชาติพันธุ์ ด้านงานบุญประเพณี เทศกาลและการลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน จาก 20 ชาติพันธุ์  27 กลุ่มพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนการดำเนินงานงดเหล้าและส่งเสริมสุขภาวะในกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีบริบท มีการออกแบบกิจกรรมและความสำเร็จที่แตกต่างกัน ภายในงานมีกิจกรรมเสวนาการขับเคลื่อนสุขภาวะของกลุ่มชาติพันธ์ผ่านกลไกของ สภาชาติพันธุ์ และการขับเคลื่อนประเด็นเรื่องเหล้าของกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมกันนี้ ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อยกระดับเป็น “สมาพันธุ์เครือข่ายชาติพันธุ์สร้างสุข งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง” และเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงรูปธรรม   โดยกิจกรรมในครั้งนี้ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมครั้งนี้ ณ โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 8 ของประเทศไทย แต่มีประชากรเบาบาง มีกลุ่มชาติพันธุ์มากถึง 9 ชาติพันธุ์ 13 กลุ่ม โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีกลุ่มชาติพันธ์มากที่สุด การที่สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดเวทีแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่ง เป็นการระดมสมองในการจะทำอย่างไรให้ประเพณีอันดีงามไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์นำไปสู่การจัดกิจกรรมที่เหมาะสมของชนเผ่าต่างๆ ให้สามารถลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างจริงจัง เป็นการสร้างคุณค่าอันดีงามให้งานประเพณีวัฒนธรรม  ทางจังหวัดมีความยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในการผลักดันประเด็นนี้ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเกิดเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาการดำเนินงานต่อไป

ด้านนายธีระ  วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงาน สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)  กล่าวว่า เมื่อปี 2554 จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีอัตราการดื่ม ติด 10 อันดับแรกของประเทศ  ทำให้ สคล.เข้าดำเนินงานรณรงค์งดเหล้าในชุมชน,งานบุญประเพณีและเทศกาลต่างๆ เมื่อปี 2560 อยู่ในอันดับที่ 37 และปี 2564 อยู่ในอันดับที่ 39 ซึ่งลดลงตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีการรณรงค์ของภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วนของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ช่วยกันขับเคลื่อนงาน ทั้งนี้ทำให้มีพื้นที่ต้นแบบหลายพื้นที่ อาทิ งานปอยส่างลอง(ปลอดเหล้า) ในอำเภอเมือง นอกจากนี้ที่อำเภอปางมะผ้า กลุ่มชาติพันธุ์ได้กำหนดกฎระเบียบของชุมชน เช่น เจ้าภาพห้ามเลี้ยงเหล้าในงาน หากเจ้าภาพเลี้ยงเหล้าชาวบ้านจะไม่ไปช่วยงาน ห้ามดื่มและนำสุราเข้าไปในสถานที่สำคัญทางศาสนา ห้ามนำสุราเข้าไปในงานศพและงานบุญ รวมถึงงานบุญประเพณีห้ามเลี้ยงสุรา เป็นต้น     ความสำเร็จของพื้นที่ต่างๆ ในการลดการดื่มของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เป็นต้นแบบที่ดีที่จะขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ ซึ่งภายหลังกิจกรรมในครั้งนี้จะได้นำบทเรียนที่ได้ไปยกระดับและพัฒนาการทำงานรณรงค์ โดยร่วมกันค้นหาแนวทางและข้อเสนอในการขับเคลื่อนร่วมกันทั้งในภาพรวมและในแต่ละพื้นที่ โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งมีกลุ่มชาติพันธุ์มากที่สุดจะเป็นต้นแบบที่ดีในการขับเคลื่อนงานสุขภาวะในชาติพันธุ์ต่างๆ

นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอนและในฐานะชาวไทใหญ่ กล่าวว่า การจัดเวทีครั้งนี้นับเป็นการรวมของพี่น้องชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดจากเครือข่ายทั่วประเทศ ถึง 27 กลุ่ม อาทิ  กะเหรี่ยงแดง ไทใหญ่ ลีซู ลาหู่ ปะโอ ม้ง ปกาเกอญอ ไทยญวน ไทใหญ่ ไทเบิ้ง ลาวแง้ว  ไทพวน ไทยทรงดำ ไทย-รามัญ ลาวเวียง  กูย  เขมร  ลาว และ ภูไท  เป็นต้น  จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีชุมชนต้นแบบงานประเพณีปลอดเหล้าหลายพื้นที่ อาทิเช่น (1) บ้านห้วยขานโดดเด่นเรื่องงานบุญประเพณีปลอดเหล้าโดยขับเคลื่อนผ่านโครงการหมู่บ้านศีลห้า (2) บ้านผาบ่อง (ผาบ่องโมเดล) โดดเด่นเรื่องการขับเคลื่อนงานบุญประเพณีปลอดเหล้าในระดับตำบล หมู่บ้านนวัตวิถี ไทใหญ่ทาวส์ และชุมชนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และ (3) ชุมชนป๊อกกาดเก่า เป็นต้นแบบของสังคมเมืองที่สามารถจัดงานประเพณีปลอดเหล้ามานานกว่า 10 ปี เริ่มต้นจากการขับเคลื่อนงานปอยส่างลองปลอดเหล้าซึ่งเป็นงานบุญประเพณีการบวชสามเณรของชาวไทใหญ่ และสามารถขยายไปสู่งานบุญประเพณีปลอดเหล้าทั้งหมดของตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

“10 กว่าปีก่อน ในกลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการดื่มหนักมากโดยเฉพาะวันรับแขกในงานเทศกาลปอยส่างลอง ผลกระทบที่ตามมา คือ ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย มีการทะเลาะวิวาท เกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญเกิดมีหนี้สินตามมาจำนวนมาก เพราะงบประมาณในการจัดงานโดยเฉพาะค่าเหล้าไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นถึงสามหมื่นบาทต่อเจ้าภาพ บางรายค่าใช้จ่ายเป็นแสน ปี 2556 เราจึงมาหารือกันและสร้างข้อตกลงกันว่า งานปอยส่างลองต้องไม่มีการเลี้ยงเหล้า ซึ่งทุกคนต่างเห็นด้วยและร่วมมือกันจนเกิดผลสำเร็จ เกิดเป็นกระแส และสามารถขยายผลไปสู่งานบุญประเพณีอื่นๆ ทั้งออกพรรษา ลอยกระทง งานศพ ต่อไปเราจะขยายผลไปสู่ชนเผ่าลีซู โดยจะดำเนินการไปทีละชนเผ่าในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน” นายประเสริฐ ประดิษฐ์  กล่าว

นางสาวกาญจน์ฐิตา มนุษย์พัฒนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านพัฒนา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า บ้านเราเป็นหมู่บ้านสีขาวจะไม่มีการขายเหล้าในหมู่บ้าน โดยจุดเริ่มต้นจากสถาบันครอบครัวมีปัญหา จากการดื่มสุราของพ่อบ้าน เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทและนำไปสู่ความรุนแรง กลุ่มแม่บ้านจึงรวมตัวกันมาหารือกับผู้นำชุมชน ขอให้ไม่มีการขายเหล้าในหมู่บ้าน  ทั้งนี้เพื่อลดจำนวนคนดื่มลง ถ้าไม่มีคนขายก็จะช่วยลดจำนวนคนดื่มลงได้ทางหนึ่ง ส่วนการเข้าร่วมโครงการของ สคล.เริ่มประมาณปี 2564 เราต้องการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเพื่อให้เยาวชนของเราทราบถึงโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเข้าร่วมกิจกรรมของเครือข่ายในครั้งนี้เราสนใจแบบอย่างของจังหวัดราชบุรีในเรื่องของการกอด ซึ่งการสวมกอดกันของคนในครอบครัวจะทำให้เกิดความอบอุ่นและกล้าที่จะเปิดใจพูดคุยกันมากขึ้น อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความไม่เข้าใจกันระหว่างคนในครอบครัวได้ ซึ่งจะนำไปปรับใช้กับเผ่าปกาเกอญอของเรา เพราะเผ่าเราให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวมาก กิจกรรมใดดีประสบความสำเร็จเราก็จะนำไปปรับใช้