In News
ส่งออกอัญมณี-เครื่องประดับไทยปี2565 โกยเงินกว่า5.27แสนล.ขยายตัวเกือบ50%
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย มีมูลค่าการส่งออก ปี 2565 กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเกือบ 50%
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย มีมูลค่าการส่งออก ปี 2565 กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเกือบ 50% รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สร้างโอกาสทางการค้าอย่างเป็นระบบ
วันที่ 9 มีนาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงมูลค่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศไทย ปี 2565 ชื่นชมเป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการเติบโตที่สูง มีตัวเลขการส่งออกเป็นอันดับที่ 3 ของไทย โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย จะสามารถเติบโตได้อีกถึง 10 - 15%
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มียอดการส่งออกสูงสุด เป็นอันดับที่ 3 ของไทย โดยจากสถิติช่วงเดือน มกราคม-ธันวาคม 2565 อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ มีมูลค่าการส่งออกถึง 15,057.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือเป็นเงินไทย 527,019.5ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยน 1 USB = 35บาท) และมีการขยายตัวกว่า 49.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ทองคำ เครื่องประดับทอง เพชรเจียระไน เครื่องประดับเงิน พลอยเนื้อแข็งเจียระไน และ พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน โดยมีตลาดการส่งออกที่สำคัญ (ไม่รวมการส่งออกทองคำ) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ฮ่องกง เยอรมนี สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ญี่ปุ่น ตามลำดับ ซึ่งมูลค่าตลาดการส่งออกของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมส่งออกทองคำ) ทุกตลาดมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตกต่างกันไป โดยจุดเด่นของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย อยู่ที่การออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยความปราณีต ในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมาก นอกจากนี้ จากข้อมูลในปี 2565 ได้มีผู้ประกอบการด้านอัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นจำนวนกว่า 12,892 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 2.41% ซึ่งแสดงถึงการเติบโต ของภาคอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ
“นายกรัฐมนตรี รับทราบตัวเลขมูลค่า และแนวโน้มที่เติบโตขึ้นของภาคอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และสร้างโอกาสทางการค้าอย่างเป็นระบบ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งเสริมสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก (Local to Global) สร้างผู้ส่งออกรายใหม่ (New Faces) และเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าและบริการ ตลอดจน ขยายช่องทางตลาดต่างประเทศ ยกระดับมาตรฐานเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นายกรัฐมนตรีมั่นใจในคุณภาพสินค้าไทย และรัฐบาลจะสนับสนุนผู้ประกอบการทุกกลุ่มเพื่อโอกาสทางการแข่งขันที่ดีขึ้น ” นายอนุชาฯ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงกิจกรรมสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ได้แก่
1) งานนิทรรศการอัญมณีและเครื่องประดับ Jewellery & Gem ASEAN Bangkok (JGLB) ระหว่างวันที่ 26 - 29 เมษายน 2566 ณ Hall 1&2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ 2) งาน 68th Bangkok Gems & Jewelry Fair ระหว่างวันที่ 6 - 10 กันยายน 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งผู้ประกอบการ และผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้