EDU Research & ESG
นักวิชาการชื่นชมปชป.นำเสนอวิสัยทัศน์ การศึกษาชัดเจนสอดรับทุกข้อเสนอ
กรุงเทพฯ-นักวิชาการ ชื่นชมประชาธิปัตย์ นำเสนอวิสัยทัศน์การศึกษาชัดเจน สอดรับทุกข้อเสนอ พร้อมสานต่อนโยบายการศึกษา
นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค และกรรมการด้านเทคโนโลยี พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ขึ้นเวที TEP Forum 2023 ชวนพรรคร่วมคิด ฟื้นชีวิตเรียนรู้ใหม่ หนุนเด็กไทยก้าวทันโลก พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ ในการเสวนา “นโยบายแบบไหน เปลี่ยนการศึกษาไทยได้จริง” ร่วมกับตัวแทนจากพรรคการเมืองอีก 7 พรรค เพื่อร่วมกันคิดฟื้นชีวิตการเรียนของเด็กไทย ให้สามารถก้าวทันโลกได้ จัดโดยภาคีเพื่อการศึกษาไทย (Thailand Education Partnerships : TEP) และ Thai PBS เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวว่า ในส่วนข้อเสนอที่ทางภาคีเพื่อการศึกษาไทยฝากไว้ในเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลาง จะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มสมรรถนะเด็กไทย สร้างการมีส่วนร่วมของครู และการปรับปรุงระบบการประเมินเพื่อตอบโจทย์อนาคตของเด็กไทยมากขึ้นนั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์ โดยดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำตามรูปแบบของ TEP ทั้งหมด มีการลงไปในพื้นที่นวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญ และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ทางภาคประชาชนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ภาครัฐถ้ามีอำนาจเต็มจะต้องเปิดทางทำในส่วนนี้ให้หมด อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางสสวท. ที่ได้กำกับอยู่ มีคณะอนุกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านเข้าไปทำหลักสูตรในเชิงนวัตกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ว่าจะนำไปใช้อย่างไรให้เร็วที่สุด ซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก็จะเปิดทางให้ดำเนินการทั้งหมด
“วันนี้ผมมารับข้อเสนอทั้งหมดที่TEP ทำไว้ ซึ่งที่ผ่านมาเราทำในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างทั้งหมดทางเครือข่าย ภาคประชาชนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ภาครัฐที่มีอำนาจเต็มต้องเปิดทางให้ส่วนพวกนี้เข้าไปทำให้หมด ในพื้นที่นวัตกรรม เป็นพรบ.นวัตกรรม มีการพยายามจะยุบพรบ.นี้ และยังไปชะลอพรบ.ตัวใหม่ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้ออก มี 10 กว่ามาตราที่ผ่าน ยังเหลืออีกกว่า 100 มาตรา ตรงนี้เป็นหลักสำคัญจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างและทำหลักสูตรใหม่ ซึ่งจะมีองค์กรมหาชนเกิดขึ้น 3 องค์กร องค์กรนึงจะเป็นองค์กรที่ทำหลักสูตรโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าผมหรือพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีว่าการก็จะเปิดไฟเขียวตรงนี้ให้หมด”นายภูมิสรรค์ กล่าว
นายภูมิสรรค์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีการศึกษาที่มีคุณภาพ อยากให้ทุกคนได้ลงไปดูพื้นที่นวัตกรรม ซึ่งเด็กนักศึกษาที่ไปเรียนต่างประเทศและได้ไปดูพื้นที่นวัตกรรมที่จังหวัดระยองถึงกลับบอกว่าถ้ารู้ว่าประเทศไทยมีการศึกษาแบบนี้ จะเรียนที่ประเทศไทย โดยปัจจุบันพื้นที่นวัตกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากเดิมมี 9 พื้นที่นวัตกรรม เพิ่มเป็น 19 พื้นที่นวัตกรรม
ส่วนข้อเสนอในเรื่องการป้องการการละเมิดสิทธิเสรีภาพและการใช้ความรุนแรงในสถานศึกษานั้น ยืนยันว่าเมื่อใครทำผิดต้องลงโทษไปตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ได้มีหลักสูตรสิทธิมนุษยชนซึ่งจะเอามาอบรมครู รวมถึงเด็กนักเรียนร่วมกันในเชิงวิพากษ์ และใช้ขบวนการ CODING เข้ามาจับ ซึ่งคุณหญิงกัลยาได้ประกาศเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล การเปลี่ยนจาก STEM เป็น STEAM ซึ่งทั้งหมดได้เข้าไปอยู่ในระบบการศึกษาไทยทั้งหมดแล้ว รวมถึงโครงการ “คนละเครื่อง พี่แบ่งให้…น้องได้เรียน” ที่คุณหญิงกัลยาได้ริเริ่มเพื่อรณรงค์แบ่งปัน Smart Device ให้กับโรงเรียนและเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน เป็นการสร้างการศึกษาไทยให้เท่าเทียม
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินหน้าชู ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สำหรับนโยบายด้านการศึกษานั้นซึ่งถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำรัฐบาลจะประกาศให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี เมื่อจบออกมาแล้ว มีงานรองรับ อินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกห้องเรียน เพื่อให้ทุกห้องเรียนได้เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ ๆ และเรียนในระบบดิจิทัลได้ อีกทั้งทำให้ประชาชนในหมู่บ้านหรือชุมชนเข้าถึงแหล่งข้อมูล และทำการค้าขายออนไลน์ได้ เพื่อสร้างเงินให้กับตัวเอง สร้างคนให้ประเทศผ่านระบบการศึกษาตลอดชีวิตด้วย รวมถึงฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เด็กไทยต้องได้ดื่มนมทุกวัน