In News

ขบ.เผยผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วปท. รถบรรทุก-โดยสาร/สั่งห้ามวิ่ง1.1พันคัน



กรุงเทพฯ-กรมการขนส่งทางบก เผยผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 13 มีนาคม 2566

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) และโฆษกกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและสุขอนามัยของประชาชน หนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากควันดำท่อไอเสียของรถยนต์ที่สัญจรไปมาบนท้องถนน กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) มิได้นิ่งนอนใจในปัญหาดังกล่าว ได้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด การปรับปรุงมาตรฐานการตรวจวัดค่าควันดำมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1) การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบวัดความทึบแสงขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 เดิมร้อยละ 45 และ 2) การตรวจวัดควันดำด้วยเครื่องวัดควันดำระบบกระดาษกรองขณะเครื่องยนต์ไม่มีภาระค่าควันดำสูงสุดไม่เกินร้อยละ 40 เดิมร้อยละ 50 ซึ่งเกณฑ์การตรวจควันดำใหม่ได้มีผลบังคับใช้กับการตรวจวัดควันดำรถที่มาดำเนินการตรวจสภาพรถก่อนจดทะเบียน หรือตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีประจำปีที่สำนักงานขนส่ง และสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุกแห่งแล้ว ขบ. จัดผู้ตรวจการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงการตรวจวัดควันดำบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ พร้อมทั้งติดตามการปฏิบัติหน้าที่และการบังคับใช้กฎหมายของผู้ตรวจการในการออกตรวจวัดควันดำอย่างต่อเนื่อง โดยผลการตรวจสอบ วัดควันดำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 13 มีนาคม 2566 กองตรวจการขนส่งทางบกได้ตรวจรถบรรทุกและรถโดยสารทั้งหมด 55,216 คัน มีรถที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” 274 คัน และผลการตรวจสอบวัดควันดำทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 - 13 มีนาคม 2566 สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจควันดำ รถบรรทุกและรถโดยสาร 115,699 คัน มีที่มีค่าควันดำที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดและถูกสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” 865 คัน รวมทั้งหมด 1,139 คัน

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ขบ. แนะนำให้เจ้าของรถตรวจเช็กและดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น ดังนี้ 1) ให้ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนกรองอากาศใหม่ 2) เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง ตามระยะเวลา 3) เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา 4) ปรับตั้งปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงให้ถูกต้อง และ 5) ตรวจเช็กและปรับตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละออง และมีแรงดัน เป็นต้น หากตรวจวัดควันดำด้วยระบบวัดความทึบแสงแล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 30 หรือตรวจวัดควันดำด้วยระบบกระดาษกรองแล้วมีค่าควันดำเกินร้อยละ 40 จะถูกเปรียบเทียบปรับสูงสุด 5,000 บาท และสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นข้อความ “ห้ามใช้” จนกว่าเจ้าของรถจะนำรถไปแก้ไขสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกำหนด และนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้