In Thailand
เจ้าคณะภาค14ตั้งหลวงพี่น้ำฝนเป็นปธ. คณะทำงานร่วมพระวินยาธิการโมเดล
นครปฐม-เจ้าคณะภาค 14 ผุดโมเดลคณะทำงานเฉพาะกิจขันน๊อต ดูแลคณะสงฆ์ 4 จังหวัด ประกอบด้วยนครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณ สมุทรสาคร โดยตั้ง หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นทัพหน้าตรวจสอบการทำงานร่วมกับพระวินยาธิการ ในระดับตำบล พร้อมตรวจสอบกลุ่มแฝงตัวหากินในผ้าเหลือง ปกป้องไม่ให้วงสงห์มัวหมอง
วันที่ 17 มี.ค. 66 พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้เรียกประชุมและออกคำสั่งเจ้าคณะภาค 14 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการช่วยวินิจฉัย แก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุและแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียน ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ประกอบด้วยจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร โดยพระราชวชิรโมลี รองเจ้าคณะภาค 14 พระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พระพิพัฒน์ศึกษากร ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระมงคลพัฒนาภรณ์ ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และคณะที่ปรึกษา คณะทำงาน นายปราณสุวีร์ อาวอร่ามรัศมิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครปฐมเข้าร่วมรับนโยบายตามคำสั่งเจ้าคณะภาค 14 ที่ 3/2566
พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้ออกคำสั่งและเชิญคณะสงฆ์ในสังกัดจัดตั้งคณะทำงาน รูปแบบคณะทำงานเฉพาะกิจ ตามมติเถรสมาคม เพื่อร่วมทำงานกับคณะพระวินยาธิการในพื้นที่ระดับตำบล เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ความประพฤติที่ไม่เหมาะสมได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สังคม บ่อยครั้งซึ่งการบริหารงานจึงจำเป็นต้องทันโลกและก้าวให้ทันข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีทั้งสื่อหลักและข่าวสารในรูปแบบต่างๆ โดยได้กำหนดให้มีการทำงานภายใต้อำนาจของเจ้าคณะจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด โดยมีจุดประสงค์ ดำเนินการช่วยวินิจฉัย แก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุและแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียน ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ เกิดผลดีทั้งทางโลกและทางธรรมแก่คณะสงฆ์ โดยอาศัยอำนาจตามความในกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ.๒๕๔๑) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ ข้อ ๑๐ (๑) (๓) และ (๕) จึงตั้งคณะกรรมการดำเนินการช่วยวินิจฉัย แก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียน ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔
ด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานนะประธานคณะทำงาน เผยว่า หลังได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นการเดินหน้าเพื่อดูแลความเรียบร้อยในคณะสงฆ์ทั้ง 4 จังหวัด โดย
มีหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตาม ระงับและแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียน ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ เพื่อระงับเหตุให้ยุติโดยเร็ว ในการปฏิบัติหน้าที่ให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถร-สมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ และพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช หรือตามคำสั่งเจ้าคณะภาคแล้วแต่กรณี ด้วยการบูรณาการร่วมกับเจ้าคณะผู้ปกครอง พระวินยาธิการ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าของพื้นที่ ที่เกิดอธิกรณ์ และให้รายงานเจ้าคณะภาคเพื่อทราบและสั่งการเป็นลำดับชั้น ซึ่งยังรวมถึงกลุ่มที่มีการแฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ในวงการสงฆ์ที่มีไม่น้อยในปัจจุบัน
“คณะสงฆ์ได้รับความบอบช้ำมามากแล้ว จากหลายเหตุการณ์ ซึ่งมีประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับวงการสงฆ์ หลายเรื่องยังไม่มีการตัดสินแต่สังคมได้มองว่าพระผิดไปแล้ว และไม่มีการแก้ข่าวหรือนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ ซึ่งอาตมาเองก็เจอมากับตัวหลายครั้ง แต่ที่สำคัญปัญหานี้จะแก้ได้ด้วยการที่เจ้าอาวาสต้องไม่ปกป้องพระภิกษุสงฆ์ที่กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานานและสะสางปัญหาไม่ได้ ซึ่งอาตมาก็ได้ศึกษาเรียนรู้ กระบวนการในสังคม โดเฉพาะในเรื่องสังคมออนไลน์ และในข้อกฎหมาย ซึ่งเป็นจุดบอดในวงการสงฆ์ โดยมีคณะทำงานที่จะสนับสนุนการทำงาน และเชื่อว่าในอนาคตคำสั่งนี้จะเป็นต้นแบบในการปกครองกับคณะสงฆ์ต่อไปทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้มีขั้นตอนในการเฝ้าพิทักษ์พระพุทธศาสนาในบ้านเราด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย