In News
ยอดจดทะเบียนรถอีวีในไทยกว่า3แสนคัน รัฐฯเดินหน้ามาตรการสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เดินหน้ามาตรการของรัฐบาล ปูทางประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ส่งผลยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเติบโตต่อเนื่องกว่า 3 แสนคัน
วันนี้ (23 มีนาคม 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบรายงานสถิติจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสม เดือนมกราคม 2566 มากถึง 317,502 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึงร้อยละ 39.47 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญของไทยในการเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต ซึ่งถือเป็นผลสำเร็จจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนให้เกิดการผลิตและใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศมากขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย ปี 2566 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 3 ประเภท ในกลุ่มรถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2566 สูงถึง 317,502 คัน และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มียอดจดทะเบียนสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 331,885 คัน โดยประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสะสมมากที่สุด คือ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) มียอดจดทะเบียนสะสมเดือนมกราคม 2566 จำนวน 257,726 คัน และสะสมเป็น 265,475 คัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 รองลงมาได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) มียอดจดทะเบียนสะสมเดือนมกราคม 2566 จำนวน 43,297 คัน และสะสมเป็น 44,535 คัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด มียอดจดทะเบียนสะสมเดือนมกราคม 2566 จำนวน 16,479 คัน ถือเป็นประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่มีเพียง 4,260 คัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 286.83 และล่าสุดมียอดสะสมในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพิ่มเป็น 21,875 คัน
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นนวัตกรรมทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน รวมถึงยังสอดคล้องกับกระแสความนิยมในระดับโลก ปัจจุบันทั่วโลกสนับสนุนกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า และไทยก็มีนโยบายสนับสนุนให้มีการใช้และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมากขึ้น นายกรัฐมนตรีหวังว่าปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้จะทำให้ไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และเป็นศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค” นายอนุชาฯ กล่าว