In News

เศรษฐกิจจชต.สุดคึกคักรับเดือนรอมฎอน เงินสะพัดกว่า10ล./เข้ม!ความปลอดภัย



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนใต้(จชต.)คึกคักรับเดือนรอมฎอนกว่า 10 ล้านบาท กำชับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย ป้องกันการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับภาวะเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) โดยเฉพาะบริเวณตลาดชายแดนวังประจัน จังหวัดสตูล ที่คึกคักเป็นพิเศษ พี่น้องมุสลิมทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเข้ามาจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมเข้าสู่เดือนรอมฎอน โดยตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตรวจสอบไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนไม่เป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดือนรอมฎอน เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์และเป็นห้วงเวลาสำคัญทางศาสนาอิสลาม ซึ่งในปีนี้ สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1444 ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2566 ชาวมุสลิมจึงได้ออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของสินค้าที่จำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับต้อนรับเดือนรอมฎอน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณตลาดชายแดนวังประจัน จังหวัดสตูล ซึ่งติดกับด่านวังเกลียน ประเทศมาเลเซีย มีชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ แหล่งจำหน่ายสินค้าในจังหวัดอื่น ๆ ภาคใต้ ก็คึกคักไม่แพ้กัน อาทิ ตลาดรอมฎอน ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารที่โด่งดังและใหญ่ที่สุดในจังหวัดปัตตานี ตลาดนัดบันนังซิแนและตลาดสดการรถไฟยะลา จังหวัดยะลา โดยคาดการณ์ว่า บรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าจะยังคงคึกคักไปจนถึงช่วงวันอีฎิ้ลฟิตริ หรือ วันฮารีรายอ ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองหลังสิ้นสุดเดือนแห่งการถือศีลอด

“นายกรัฐมนตรียินดีที่บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของเพื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอนในปีนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอความร่วมมือร้านค้าต่าง ๆ อย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด” นายอนุชาฯ กล่าว