Authority & Harm
คุมตัวสองคู่หูปืนโหดทำแผนยิง‘กัสแม่น้ำแคว’แจ้ง4ข้อหา

กาญจนบุรี-ผู้การตำรวจกาญจน์ คุมตัว "เก่ง "บ้านจงเจริญ” กับ “ไนซ์ นากาญจน์" สองคู่หูปืนโหด ทำแผนยิง “กัสแม่น้ำแคว” แจ้ง 4 ข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 30 มี.ค.66 พล.ต.ต. ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว. กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี (สืบสวน) พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ พ.ต.อ. มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สภ.เมือง กาญจนบุรี พ.ต.ท.มารุต ฉัตรฑัณท์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ตร.ชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี
ได้นำตัวนายสิทธิชัย ม่วงแก้ว หรือฉายา “เก่ง บ้านจงเจริญ” อายุ 27 ปี ที่อยู่ 204/2 ม.3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และนายจตุรภัทร์ โทนทอง หรือ “ไนซ์ นากาญจน์” อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สองคู่หูที่เป็นเพื่อนกับนายวายุ หรือ" กัส แม่น้ำแคว"ผู้ตาย ซึ่งคนทั้งคู่ได้ยอมรับสารภาพว่า ได้ใช้ปืนยิงใส่นายวายุ หรือกัส (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ถ.แม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีการนำรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน บพ 6748 กาญจนบุรี ที่ใช้ในการก่อเหตุ และใช้ในการหลบหนีหลังก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายเก่งเล่าว่า หลังจากขับรถไปรับนาย กัสมาจากบ้านนายสปาย ที่หน้าบ้านอู่ซ่อมรถอยู่ซ่อมรถถนนพัฒนาการ ต่อจากนั้นนายเก่งก็ขับรถยนต์กระบะโดยมีนายกัสนั่งคู่มาด้วย ส่วนนายไนซ์ นั่งอยู่เบาะหลัง ในรถนายกัสได้ทะเลาะกับนายเก่งและตบหน้านายเก่ง ทำให้นายไนซ์ที่อยู่เบาะหลังโมโหนาย กัสจึงเกิดการชกต่อยกันในรถ ต่อมานายเก่งได้ขับรถไปจอดในที่เกิดเหตุ เมื่อจอดรถแล้ว นายกัสเปิดประตูแค๊ปให้นายไนซ์เดินลงไปปัสสาวะที่ป่าข้างทางนายไนซ์เมื่อปัสสาวะเสร็จ จึงเดินกลับมาที่ประตูรถด้านข้างคนขับ นายกัสยังโมโหด่าทอนายไนซ์ต่ออีก
ส่วนนายเก่งลงจากรถและหยิบปืนสั้นลูกโม่ ออกมาจากซอกประตูคนขับ ยกปืนขึ้นยิงใส่นายกัสที่ยืนอยู่อีกฝั่งของประตูรถ จากนั้นนายไนซ์ก็ชักปืนลูกซองพกสั้น(อีโป๊ะ)ยิงใส่นายกัส ทำให้นายกัสเสียหลักถอยหลังไปหน้ารถกระบะ นายเก่งจึงเดินเข้าหายกปืนจ่อยิงใส่ไปที่นายกัสอีก 4 นัด
นายกัสได้วิ่งหนีเข้าป่าข้างทางฝั่งคนนั่ง และวิ่งหนีหายไปในความมืด หลังจากนั้น พล.ต.ต.ไพโรจน์ พา2 ผู้ต้องหาเดินทางไปทำแผนจุดที่สอง คือที่บนแพล่องริมแม่น้ำแควใหญ่ หน้าหอพระประวัติฯ เป็นจุดที่นายเก่งกับนายไนซ์ หลังก่อเหตุรีบขึ้นรถ และขับออกจากที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าไปที่ท่าจอดแพหน้าหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวรมหาปรินายก วัดเทวสังฆาราม(วัดเหนืพระอารามหลวง จากนั้นนายเก่งได้นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอแพดของนายกัสไปทิ้งลงแม่น้ำแควใหญ่ และเดินทางกลับไปบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังทำแผน พล.ต.ต.ไพโรจน์เปิดเผยว่า "คดีนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ 2 คน สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพ จึงนำตัวไปขี้จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนการสอบสวน โดยตอนนี้แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหา 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ยิงปืนในที่สาธารณะ 3.พกพาอาวุธปืนไปที่สาธารณะ 4.มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ
ส่วนทางด้านนายอภิวุฒิ จีนพานิช อายุ 51 ปี พ่อของนายกัส กล่าวว่า "ตนไม่เชื่อว่าลงมือกันแค่สองคน เพราะว่าถ้าคนสองคนคงจะเอาน้องกัสไม่ลงง่ายๆ น้องกัสเป็นคนร่างใหญ่ เพราะใช้อาวุธ หรืออะไรไม่รู้ ก็อยากให้สังคมช่วยทวงความยุติธรรมให้ลูกชายผมด้วย ปัญหาส่วนตัวก็มีบ้าง ผมถามเขาอยู่เรื่อย ก็ไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตแบบนี้ ผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด " นายอภิวุฒิ พ่อผู้เสียลูกชายกล่าว
สนั่น-กาญจนบุรี