In News

ทอท.เตรียมรับการเดินทางช่วงสงกรานต์ คาด6สนามบินมีผู้บริการกว่า2.37ล้านคน



กรุงเทพฯ-บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่งของ ทอท. จำนวนกว่า 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 พร้อมกับได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ และแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อตรวจสอบข้อมูลและสถานะของจุดบริการต่าง ๆ เพื่อวางแผนการเดินทาง

ทอท. ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2566 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2665 แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 219.20 และเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 6,720 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44 โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.48 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 561.76 และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.08

ด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานของ ทอท. ได้นำนวัตกรรมมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นผ่านทางแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT สามารถตรวจสอบข้อมูลและสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอคิว ณ จุดเช็กอิน (Check-in) จุดตรวจความปลอดภัย (Security) และจุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ตลอดจนตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทาง บอกตำแหน่งและจำนวนห้องน้ำที่พร้อมให้บริการภายในอาคารผู้โดยสาร จำนวนช่องจอดรถที่ว่าง และผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถจองรถแท็กซี่ ค้นหาข้อมูลรถสาธารณะได้ นอกจากนี้ ทอท. ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ณ ทสภ. ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร โดยไม่ต้องเข้าแถวรอคิวเข้าใช้บริการเคาน์เตอร์ต่าง ๆ สามารถเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าได้ 6 - 12 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)

นอกจากนี้ ทสภ. ได้มีการปรับปรุงการให้บริการเพิ่มเติม โดยได้ติดตั้งระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ (Automatic Return Tray System: ARTS) ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 4 ชุด ที่จุดตรวจค้นฯ โซน 3 ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งในการรอต่อคิวตรวจกระเป๋าและสัมภาระแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้วย UV Light (UVC) ได้สูงถึง 99.9% และในระหว่างที่ ทสภ. มีการดำเนินงานตามแผนติดตั้งระบบ ARTS ที่เหลืออีก 15 ชุด ทสภ.ได้มีการเปิดใช้งานจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั่วคราว บริเวณท้ายเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W พร้อมทั้งสนับสนุนพนักงานปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจค้นฯ ชั่วคราว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ทสภ. ได้ยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 12 เมษายน 2566 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 18 เมษายน 2566 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ - ส่งผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับ ทดม. ได้ดำเนินการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าชานชาลาขาออกชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2566 ระหว่างเวลา 04.00 - 07.00 น. มีการปรับช่องทางเข้าอาคารจอดรถ 7 ชั้น จากเดิมใช้ช่องทางเข้าชั้น 3 เส้นทางเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศขาออก เปลี่ยนมาใช้ช่องทางเข้าในชั้น 1 แทน ซึ่งนอกจากเวลาดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถใช้เส้นทางเข้าอาคารจอดรถได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก รวดเร็วของผู้โดยสาร ทดม.ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแนะนำตลอดเส้นทาง

ทอท. เน้นย้ำในหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกอื่น ๆ ที่เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ หากจะนำขึ้นเครื่องต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์มาตรฐานขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีฉลากแสดงปริมาตรและที่มาอย่างชัดเจน

สำหรับการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แสดงตัวตนสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้าเขตหวงห้าม พื้นที่ควบคุม หรือเขตการบินของสนามบิน ผู้โดยสารขาออกเที่ยวบินภายในประเทศสามารถใช้เอกสารได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) เอกสารฉบับจริงที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสูติบัตรฉบับจริง (สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี) เป็นต้น 2) เอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยแสดงผ่านแอปพลิเคชันที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น DLT QR License หรือ ThaID (ไทยดี) ทั้งนี้ ไม่สามารถใช้ภาพถ่าย (Capture) ของเอกสาร หรือภาพถ่ายไฟล์ PDF เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ และง่ายต่อการปลอมแปลง

ทั้งนี้ ทอท. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยในสนามบิน โดยมีผู้บริหารและพนักงาน AOT รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมประจำศูนย์ฯ ตลอดเทศกาล อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีผู้มาใช้บริการสนามบินเป็นจำนวนมาก ทอท. ขอความกรุณาผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้า 2 - 3 ชั่วโมง หรือตรวจสอบข้อมูลสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอบริเวณจุดให้บริการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวบินและการให้บริการของ AOT ได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง