Think In Truth

นักวิชาการมองพรรคการเมืองสมัครมาก เป็นสิ่งสวยงามทางประชาธิปไตย



ฉะเชิงเทรา-นักวิชาการมอง มีนักการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งมากถึง 70 พรรคเป็นสิ่งสวยงามทางประชาธิปไตย วอนผู้สมัครและพรรคการเมืองใช้นโยบายสร้างคะแนน ระบุไม่อยากเห็นภาพการใช้กระสุนนอกเกม แนะประชาชนพิจารณานโยบายพรรคที่ทำได้จริงก่อนตัดสินใจ พร้อมชี้ช่องให้มองผลงานย้อนหลังเป็นรัฐบาลเป็นเครื่องพิสูจน์

วันที่ 8 เม.ย.66 เวลา 11.30 น. ผศ.นพพร ขุนค้า อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ระหว่าง 3-7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตมากถึง 70 พรรค และแบบบัญชีรายชื่อ 67 พรรคว่า เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เพราะหัวใจของระบอบประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง และหัวใจของการเลือกตั้งคือพรรคการเมือง และพรรคการเมืองคือโรงเรียนสอนระบอบประชาธิปไตยให้แก่ประชาชน ถือเป็นการตื่นตัวทางการเมืองในการเลือกตั้ง

ส่วนสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือบัญชีรายชื่อของบางพรรคที่ในลำดับหลังๆ นั้นสะท้อนได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้เตรียมตัวที่จะเป็นรัฐมนตรี ถ้าพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาล ซึ่งจะสังเกตได้ว่าอยู่ในบัญชีรายชื่อจากลำดับที่ 100 ลงมาจากด้านท้ายบัญชี ขณะที่บางพรรครายชื่อในลำดับบัญชีต้นๆ ของพรรคนั้นจะเป็นกลุ่มบ้านใหญ่ก่อนจากนั้นจึงเป็นกลุ่มนายทุนของพรรค ซึ่งน่าตื่นเต้นมีโอกาสเสี่ยงพรรคแตกสูง โดยที่ระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้นทุกคนก็ต่างล้วนอยากที่จะอยู่ในลำดับต้นๆกันทั้งหมด และเป็นความหนักใจของผู้บริหารพรรค ที่จะส่งใครขึ้นต้นก่อน ถ้าจัดลำดับไม่ดีวางตัวไม่ดีมีโอกาสทำพรรคแตกได้หลังจากการเลือกตั้งผ่านไป 

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่น่าสนใจนั้น มีอยู่เพียงประมาณ 3-4 คนใน 3 พรรคการเมืองเท่านั้นที่โดดเด่นและมีโอกาสเป็นนายกฯ เช่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นแม้มีโอกาสก็จริงแต่ว่าการตั้งรัฐบาลโดยพรรคที่ไม่ได้มีเสียงส่วนใหญ่เป็นข้างมาก รวมถึงการยอมรับของคนทั้งประเทศนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไรทั้งยังมีปัญหาสุขภาพด้วย

สำหรับความตื่นตัวทางการเมืองที่สะท้อนได้จากการที่มีพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก จะเป็นการช่วยกระตุ้นทำให้เกิดการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนทั่วไปได้มากขึ้นด้วย เนื่องจากในแต่ละพรรคนั้นก็ต่างมีแฟนคลับของตัวเอง อีกทั้งยังเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งรอบนี้คนจะออกมาใช้สิทธิ์กันมากขึ้นด้วย ที่สำคัญในเวลานี้ คือ พรรคการเมืองแต่ละพรรคนั้น ล้วนต่างขุดนโยบายลดแลกแจกแถม หรือประชานิยมออกมาประชันกัน ซึ่งมองว่าไม่ผิด และถือเป็นสิ่งสวยงาม ขณะที่ประชาชนก็ควรให้ความสำคัญกับนโยบายในการตัดสินใจเลือกผู้แทนของตน 

โดยไม่อยากเห็นภาพการใช้ทรัพยากรทางการเมืองที่เรียกว่ากระสุน ที่ทำให้มองไปไกลถึงขั้นว่าอยากให้บ้านเมืองไม่มีการชื้อเสียง โดยอยากให้พรรคการเมืองมาแข่งกันโดยนโยนบายดีกว่า ในขณะที่แต่ละพรรคจะมาวิจารณ์นโยบายกันว่า อย่างนี้ทำได้ไม่ได้อย่างไร มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หรือหากจะพูดกันตรงๆ นั้นก็คือนโยบายก็เป็นการขายฝันนั่นเอง ส่วนการจะทำฝันให้เป็นจริงหรือไม่ เมื่อไปเป็นรัฐบาลแล้วหากทำไม่ได้จะถูกประชาชนลงโทษ จึงอยากให้ ปชช.ได้ให้ความสำคัญต่อนโยบายและเลือกพรรคที่ชอบมากกว่า

สำหรับการที่พรรคการเมืองจะสื่อสารนโยบายไปถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วได้อย่างไรนั้น ปัจจุบันสื่อออนไลน์เข้าถึงได้เร็วเนื่องจากโลกเปลี่ยนไปแล้ว ทำให้พรรคการเมืองหาเสียงได้ง่ายขึ้น และต้องเร่งสร้างความเข้าใจในนโยบายที่เสนอมา เช่น กระเป๋าตังดิจิทัล ที่หลายคนยังสงสัยว่าพรรคที่เสนอมานั้นจะทำได้จริงหรือไม่ หน้าที่ของพรรคการเมือง คือ ต้องไปอธิบายต่อประชาชนว่าจะทำได้จริงหรือไม่ และแหล่งเงินที่จะเอามานั้น จะไปเอามาจากไหน

ในการทำนโยบายอย่างนี้ นอกจากนโยบายฉาบฉวยแล้วอยากฝากถึงพรรคการเมืองทุกพรรคด้วยว่า เราต้องนึกถึงนโยบายที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปในอนาคตได้ด้วย และฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ดูกันในจุดนี้ ต้องมองถึงอนาคตของประเทศด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องมองอนาคตข้างหน้าว่าประเทศจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่นโยบายที่มาแป๊บเดียว เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วหายไป ต้องวางรากฐานให้กับประเทศด้วย จึงจะเป็นนโยบายที่น่าสนใจ

และขอย้ำว่านโยบายเป็นสิ่งสวยงามของพรรคการเมืองที่จะนำเสนอต่อประชาชน ส่วนจะทำได้จริงหรือไม่ได้จริง สำเร็จหรือไม่สำเร็จเมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วนั้นจะเป็นคำตอบเอง สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งขอให้ใช้ความสวยงามในการแข่งขันกัน ใช้นโยบายเข้าถึงประชาชนและอธิบายว่าจะดีอย่างไร ส่วนพี่น้องประชาชนนั้น ก็ขอให้นึกถึงนโยบายของแต่ละพรรคมากกว่าไปนึกถึงอย่างอื่น อนาคตของบ้านเมืองเราต้องช่วยกัน 14 พ.ค.66 อย่านอนหลับทับสิทธิ์ขอให้ออกมาใช้เสียงเลือกตั้งกันให้มาก ผศ.นพพร กล่าว

 สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา